สุขแบบทรมาน
ภายในห้องสี่เหลี่ยมของมุมหนึ่งในเมืองกรุง ซึ่งเรียกว่าศรีวิไล แสงไฟสลัวบ้าง สว่างบ้าง จากเพดานสีขาดอันบริสุทธิ์ สะอาด ไร้ลวดลาย มีสิ่งประดับบ้างเล็กน้อย ตามความเหมาะสม ความงาม และรสนิยมของเจ้าของห้อง แสงสว่างได้สาดส่องให้เห็นใบหน้าของบุคคลสี่คน ที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวล ความคร่ำเครียด ความคิดที่จะทำงานให้เสร็จ กับเกมที่บอกว่า คลายเครียด แต่พวกเขาหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ยิ่งดูกลับยิ่งคร่ำเครียดขึ้น จนแสดงออกมาทางใบหน้าอย่างไม่รู้สึกตัว เนื่องจากนั่งมาตั้งแต่เทียงวันจนถึงเที่ยงคืน ซึ่งสีหน้าก็ได้เปลี่ยนไปบ้าง อย่างไรก็ตาม แม้ใบหน้าจะดูจืดไปบ้าง แต่ก็ยังมีแววแห่งความงามเหลืออยู่มิใช่น้อย นานๆ ครั้งจะเห็นแต่ละคนทอดสายตามองหน้ากันและกันเพื่อให้กำลังใจ แต่ข้าพเจ้าเห็นแล้ว สบตาแล้ว ถอนหายใจลึก ๆ มีอาการตรองอย่างลึกซึ้งถึงคำที่ว่า “คนรักกัน ย่อมรู้ใจคนที่จะรักได้ โดยไม่จำเป็นต้องบอก เพราะคนรักกันเรียนรู้ ที่จะเข้าใจกันอย่างเงียบๆ และง่ายๆ แค่สายตาที่มองสบกัน เท่านี้ก็เพียงพอ” คืนนี้ แม้จะเป็นเกมที่ทรมาน แต่ก็เบิกบานในทางจิตใจ จะสุขจะทุกข์ยังไงก็ขอให้ มีใครสักคนที่เข้าใจเราคอยเคียงข้างเท่านี้ก็พอเพียงแล้ว…คุณว่าจริงไหม?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น