มีนักโทษอุกฉกรรจ์ในเรือนจำ อยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่รู้จักว่า “ตัวเองผิด” อาชญากรเหล่านี้เป็นมนุษย์ เช่นเดียวกับคุณและผม ดังนั้น เขาจึงมีเหตุผลของตนเอง เพื่ออธิบายพฤติกรรมของเขา เขาจะเล่าให้คุณฟังถึงเหตุผล ที่ต้องงัดตู้เซฟ เหตุผลที่ต้องข่มขืนแล้วฆ่า เหตุผลที่ต้องเหนี่ยวไกปืนอย่างไม่ยั้งคิด คนเหล่านี้พยายามสร้างเหตุผลที่จะอธิบายให้คุณฟัง แม้ว่าเหตุผลนั้นจะไม่เข้าท่านักก็จริง หากจะถามว่า เขาอธิบายเพื่ออะไร? คำตอบที่ได้คงจะเป็น เพื่อให้ใครต่อใคร รวมถึงตัวเขาด้วยเห็นใจในการกระทำของเขา อันเป็นศัตรูต่อความสงบของสังคมนั้นนะครับ…ยังไงต่างคนต่างคิด เอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง สันติภาพ ภราดรภาพคงจะเกิดขึ้นในไม่ช้านะครับผม…
สายน้ำไหลไปไม่เคยหวนกลับ ดอกไม้บานแล้วเหี่ยวเฉา ไร้ความงาม ชีวิตห่างจากฝั่งนี้ย่อมใกล้ฝั่งโน้น ห่างจากจุดเริ่มต้นย่อมใกล้จุดสิ้นสุด ห่างจากความดี ย่อมใกล้ความชั่ว ห่างจากความเกิดย่อมใกล้ความตาย ห่างจากความสุขย่อมใกล้ความโศกเศร้า เสียใจ มันสายไปเสียแล้ว สำหรับจิตใจฉันที่จะคลายความซาด้าน มาหลงรักเธอเหมือนเดิม พอกันทีชีวิตของเรา หยุดกันทีความใคร่ต่างๆ วันนี้ข้าพเจ้าชนะแล้ว ชนะแล้ว
เพราะอำนาจอะไร ที่ทำให้คนบางคนต้องระลึกถึงใครคนหนึ่งอยู่มิเว้นว่าง มิใช่เพราะสายสัมพันธ์ทางใจ อันค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นทีละน้อย แล้วกระชับเกลียวของมันอย่างแน่นหนาหรอกหรือ ??? ที่ทำให้คนบางคนนั้นตกอยู่ในภาวะจำยอม…ยอมแบกภาระอันหนักและเหน็ดเหนื่อย ทั้งไม่รู้เบื้องปลายว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด…
เพราะอำนาจอะไร ? ที่ทำให้มารดาเคยหลั่งน้ำตาที่ระคนด้วยปีติสุข…..
เพราะอำนาจอะไร ? ที่ทำให้บิดายอมทิ้งขวดสุรา เลิกสูบบุหรี่ และกิริยาที่เสเพลต่าง….
เพราะอำนาจอะไร ? ที่ทำให้บุตรธิดามีธูปเทียน ดอกไม้ ในมือแล้วพลางคุกเข่าลงเบื้องหน้าบุพพการีทั้งหลาย….
เพราะอำนาจอะไร ? ที่ทำให้มิตรสหาย ซึ่งเรียกว่า “เพื่อนตาย” ยอมพลีชีพเพื่อเพื่อนของเขา….
เพราะอำนาจอะไร ? ที่ทำให้ชายผู้เพียบพร้อมด้วยเกียรติยศ ไม่เคยเกรงกลัวคำสั่งใคร แม้แต่อาญาสวรรค์ ผู้เพียบพร้อมด้วยลักษณะแห่งบุรุษผู้องอาจ ห้าวหาญ จึงยอมคุกเข่าเบื้องหน้าสตรีผู้อุดมด้วยนานาคุณลักษณะ….
เพราะอำนาจอะไร ? ที่ทำให้สตรีที่เคยผยองในศักดิ์ศรีของความเป็นลูกผู้หญิง ยากใครจะเอื้อมถึง ยอมทอดกายให้ชายคนหนึ่งเป็นเจ้าของตัวเองทั้งกายและใจ..
ถ้าไม่ใช่เพราะอำนาจแห่ง “ความดี” ของผู้คนเหล่านั้น ดังนั้น ท่านยังจะว่า “ทำดีไม่ได้ดีอีกอยู่ดอกหรือ” ครับผม…
เวลาดึกมากแล้ว พระจันทร์โคจรไปอยู่ทางขอบฟ้าด้านทิศตะวันตก เสียงไก่ขันเป็นครั้งแรกในราตรี ดังเจื้อยแจ้วปลิวมาตามสายลมเป็นระยะ ๆ เป็นเวลาที่มวลชนกำลังก้าวลงสู่นิทรารมย์อันสนิท แล้วใครหนอที่ยังนอนไม่หลับ เหมือนบุคคล ๕ คนเหล่านี้ คือ สตรีคิดถึงบุรุษ บุรุษคิดถึงสตรี พระราชาผู้มีพระราชกิจมากมาย พระภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนาผู้ประพฤติธรรม และโจรผู้แสวงหาช่องทางที่จะขโมยสิ่งของของคนอื่น ที่สำคัญ หนึ่งในนั้น คือ ข้ากำลังคิดถึงเจ้าอยู่นี่ไง
บุคคลเอาเครื่องดักปลาไว้ที่ปากทางน้ำ เขาทำเพื่อความทุกข์ ความพินาศ วอดวายของปลา หาใช่เพื่อประโยชน์เกื้อกูล หรือ ความสุขอะไรไม่ ฉันใด คนที่เกิดมาไม่รักษาของดีที่บรรพบุรุษสร้างมา และไม่สร้างสิ่งใหม่ ๆ ไว้ประดับโลก แถมยังชี้ทางให้คนเดินผิด เรียกว่า “มีความสุข บนความทุกข์ของคนอื่น” ก็ฉันนั้น เขาเกิดมาเพื่อดักเพื่อนมนุษย์ ให้ประสบความพินาศวอดวาย หาใช่เพื่อประโยชน์เกื้อกูล หรือความสุขอะไรไม่ ซึ่งข้าพเจ้าขอเรียกว่า “ผู้เกิดมาหนักแผ่นดิน” นะครับ…
เด็กมองโลกอย่างร่าเริง แจ่มใจ เบิกบาน ผู้ใหญ่มองโลกอย่างระแวงระวัง ผู้สูงอายุและผู้มีธรรมะในจิตใจมองโลกอย่างปลงตกว่า มันเป็นเช่นนั้นเอง (ตถตา) จึงสามารถต้านทานต่อกระแสอันรุนแรงของโลกธรรม (ความมีลาภ ไม่มีลาภ มียศ ไม่มียศ นินทา สรรเสริญ สุข ทุกข์)ได้ โอ้..แล้วอภินันท์เอ๋ยตอนนี้เจ้ามองโลกอย่างไรหนอ ??…
ดอกบัว เป็นเครื่องประดับสระ ทำให้สระงามไม่ดูเว้งว้าง บัวทำให้สระ และน้ำในสระใสสะอาดสวยงาม ในโลกนี้ก็เช่นกัน ถ้าปราศจากสตรีที่สวยงาม อุดมด้วยคุณสมบัติ เช่นเจ้าเสียแล้ว โลกคงอ้างว้าง ว่างเปล่า ขาดเครื่องประดับอันสำคัญไปอนึ่ง บัวมีคุณภาพทำให้น้ำสะอาด สระใดไม่มีบัว มักจะมีน้ำขุ่นข้น ในทำนองเดียวกัน เจ้าผู้งาม ผู้เพียบพร้อมด้วยคุณธรรม ย่อมเป็นเครื่องประดับโลก ประดับหมู่บ้าน ประดับเรือน ทำความเข้มข้นและความแข็งแกร่งในจิตใจของบุรุษให้จางความเข้มลง ให้มีความสดชื่น แจ่มใส ย่อส่วนให้แคบเข้ามา อย่างใจของฉันกับเธอในตอนนี้ แม้จะอยู่ไกลกันแต่เราก็อยู่เคียงกันไงครับ…คิกๆๆๆ…