วันเสาร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2552

หมอที่ดี

หมอที่ดีย่อมเคารพในวิชาที่ตนศึกษามา ไม่ประพฤติตนเหลวไหลเสเพลอันเป็นเหตุให้สุขภาพเสื่อมโทรม มิฉะนั้นจะเป็นทางมาแห่งการเหยียดหยามของปวงประชาชนว่า “ดูเถิด..เป็นหมอเที่ยวรักษาคนไข้ทั่วบ้าน ทั่วเมือง แต่ไม่รู้จักรักษาสุขภาพแม้ของตนเอง” หรือเหมือนกับพระต้องรักษาสุขภาพจิตให้ดีนั่นเอง
อนึ่ง หมอที่ดีต้องมีมีเจตนา (Attention) บริสุทธิ์ มีความหวังดีต่อประชาชน มีเมตตา กรุณาต่อพวกเขา เพราะเขาเหล่านั้นกำลังได้รับทุกข์เป็นอย่างมาก เพราะความเจ็บป่วยอยู่ขั้นหนึ่งแล้ว ถ้าหมอมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ ไม่หวังดีต่อพวกเขาด้วยความบริสุทธิ์ใจ ขาดเมตตา กรุณาอันแท้จริง ย่อมขูดรีดประชาชนผู้ป่วยไข้ที่ไม่มีความรู้ในเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดาย โดยวิธีเลี้ยงโรคไว้เอาเงินบ้าง แนะนำในทางผิด ๆ บ้าง ให้ยาชนิดราคาถูกแล้วเรียกเก็บค่ายาราคาแพงบ้าง หมอชนิดนี้ย่อมประสบบาปมากกว่าบุญมากนัก เป็นการทำร้ายคนไม่มีทางสู้ เหมือน พระที่ดีต้องมีเจตนาบริสุทธิ์ มีความหวังดี มีเมตตา กรุณาต่อประชาชน ด้วยความจริงใจนั่นเอง..

วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2552

เธอผู้เลอโฉม

เพราะเธอเกิดมาสวยงาม มีเสน่ห์ ปลูกความปลาบปลื้มให้แก่ฉัน เหมือนลมเป็นที่ปรารถนาของผู้มีเหงื่อ น้ำดื่มเป็นที่ปรารถนาของผู้กระหาย เธอผู้จำรัสโฉม จึงเป็นที่รักของฉัน คล้ายกับธรรมเป็นที่รักของพระอรหันต์
ฉะนั้น…เธอจงช่วยดับความเร่าร้อน เหมือนช่วยวางยาคนไข้ผู้กระสับกระส่าย หรือให้โภชนะแก่ผู้หิว หรือดับไฟที่ลุกอยู่ในใจของฉันด้วยน้ำ ขอให้ฉันซบลงจรด ณ ถันและอุทรของเธอ เหมือนช้างผู้ร้อนจัดในหน้าร้อนหยั่งลงสู่สระโบกขรณี มีน้ำเย็นประกอบด้วยละอองแห่งเกษร ดอกปทุมถัน ฉันมึนเมาแล้ว เพราะช่วงขาอันสมบูรณ์ด้วยลักษณะของเธอ ฉันมีใจจดจ่อในเธอ ฉันไม่อาจกลับดวงจิตที่แปรปรวนไปได้ เหมือนปลาที่กลืนเบ็ดเสียแล้ว ขอเธอได้กระหวัด โอบกอดฉันไว้ ขอเธอผู้มีดวงตาอันอ่อนหวานจงจ้องมองฉันไว้ ขอเธอผู้งดงามจงสวมกอดฉันไว้ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นข้อที่ฉันปรารถนายิ่งนักนะ…