นรชนใดมีใจไม่ภินทนาการด้วยเสียงดนตรี ดอกไม้งาม และอาการเยื้องกรายแห่งสตรีสาวเสียแล้ว นรชนนั้น ถ้าไม่ใช่นักพรตผู้หมดกิเลสก็เป็นสัตว์เดรัจฉานแล้วแหละ…คุณว่าไหมครับผม....ฮิฮิ
ท่านทั้งหลาย อันความตายมีอิทธิพลยิ่งใหญ่นัก ไม่มีใครสามารถต้านทานต่อสู้ด้วยวิธีการใด ๆ ได้เลย มันก้าวเข้าไปสู่ปราสาท แห่ง กษัตริยาธิราชอย่างสง่าผ่าเผย ปราศจากความสะทกสะท้านใด ๆ เช่นเดียวกับมันก้าวเข้าไปสู่กระท่อมของขอทาน พระยามัจจุราชนั้นเป็นตุลาการอันเที่ยงธรรมยิ่งนัก ไม่เคยลำเอียงและกินสินบนของใครเลย ย่อมพิจารณาตามบท สำนวน และอ่านคำพิพากษาด้วยคำอันหนักแน่นเด็ดเดี่ยว ไม่ฟังเสียงคัดค้าน และขอร้องของใครเลย ท่ามกลางเสียงคร่ำครวญอันระคนด้วยกลิ่นธูป ควันเทียนนั้น ท่านได้ยื่นพระหัตถ์ออกกระซากให้ความหวังของทุกคนหลุดลอย และแล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามพระบัญชาของพระองค์ เมื่อมาถึงจุดนี้ ความยิ่งใหญ่ของผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย ก็จะกลายเป็นเพียงนิยายที่เล่ากันเล่นเพียงเท่านั้น
มงกุฎอันประดับด้วยเพชรไม่รู้กี่กะรัตต่อกี่กะรัต ก็มีค่าเท่ากับหมวกฟาง พระคธาอันมีลวดลายวิจิตรพิสดาร ก็เหมือนท่อนไม้ที่ไร้ค่า เมื่อความตายมาถึงเข้า พระราชาก็ต้องถอดมงกุฎเพชรวางลง แล้วเดินเคียงคู่ไปกับชาวนา ผู้ซึ่งได้ทิ้งจอบ เสียม หมวกฟางและคันไถ ไว้ให้เป็นมรดกแก่บุตรของตน ใครเล่าหนอจะต่อรองกับท่านได้ ช่างเป็นผู้พิพากษาที่ซื่อสัตย์จริง ๆ…
ชีวิต ความเจ็บป่วย กาลเป็นที่ตาย สถานที่ตาย และคติในสัมปรายภพ ของสัตว์ทั้งหลายในชีวโลกนี้ ไม่มีเครื่องหมาย บุคคลไม่สามารถกำหนดหรือรู้ได้ก่อนเลยนะครับ…
คนพาลผู้หาปัญญามิได้มักปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปด้วยเหตุ ๔ ประการ คือ กล่าวถ้อยคำไม่มีสาระ คำเหลวไหล หาประโยชน์มิได้หนึ่ง พอใจแต่ในการนอนหลบหนึ่ง มักเพลิดเพลินในการเล่นหนึ่ง และชอบทะเลาะวิวาททุ่มเถียงกับผู้ใหญ่และเพื่อนฝูงหนึ่ง ส่วนบัณฑิตนั้นมักจะปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปด้วยลักษณะตรงกันข้าม คือ กล่าวแต่คำสุภาษิต มีประโยชน์ ให้เวลาล่วงเลยไปด้วยการศึกษาหาความรู้ ประกอบกิจที่เป็นประโยชน์ ไม่พอใจในการหลับนอนมากเกินควร ไม่ทะเลาะวิวาททุ่มเถียงกับใคร มีแต่ชักนำบุคคลให้ปรองดองสามัคคีกัน..
กุลสตรีผู้ได้รับการอบรมดีแล้วจากตระกูล เกิดในตระกูลที่สูงศักดิ์ เป็นที่ยกย่องของคนทั้งหลาย ถ้าทะเลาะวิวาทกับบุรุษ จนถึงกับต้องด่าว่ากันด้วยคำหยาบคาย ให้คนอื่นฟัง สมมติว่า ท่านได้ยินเข้า ท่านคิดว่า ค่าของสตรีนั้นจะลงลงหรือไม่….?…
นกโกกาลิกามีเสียงเป็นสำคัญ นารีมีรูปเป็นสำคัญ บุรุษมีวิชาเป็นสำคัญ ผู้บำเพ็ญตบะหรือนักพรตมีความอดทนเป็นสำคัญ …แล้วท่านละเป็นอะไร…..แล้วมีอะไรเป็นสำคัญครับ…
ท่านทั้งหลาย…อันความดีนั้นเป็นสิ่งที่ทำกันได้ทุกคน แต่การรักษาความดีไว้ให้ดำรงอยู่ตลอดไป และหาทางให้เพิ่มพูนยิ่ง ๆ ขึ้นนี้สิ เป็นเรื่องยากเหลือเกิน ท่านจะเห็นความข้อนี้ด้วยอุปมาเพียงง่าย ๆ คือ บุคคลผู้ครองเรือนย่อมแสวงหาทรัพย์ได้ด้วยกันทุกคน แต่การรักษาทรัพย์ และเก็บทรัพย์ให้คงอยู่เท่าที่ควรต่างหากเล่า เป็นเรื่องยากลำบากของผู้ครองเรือน เพราะมีเรื่องที่จะต้องใช้จ่ายมาก มีเรื่องจำเป็นอีกมากมายนั่นเอง…