วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2552

สวยจริงแต่เขาก็วิ่งผ่าน

ความงาม ความสวย ความหล่อ ในร่างกายของผู้ชาย หรือผู้หญิงจะมีค่าอะไร เมื่อใจของพวกเขาปราศจากความมั่นคง ใครเล่าจะพอใจนอนในบ้านซึ่งฉาบทาด้วยสีอันสวยงาม แต่ทว่าภายในบ้าน ทั้งเสา ขื่อ กลอน และเครื่องค้ำจุน อื่นๆ ผุหมดแล้ว ใครเล่าจะชอบใจ พอใจกับดอกไม้ที่มีสีสวย แต่ไร้กลิ่น มันเพียงแต่ล่อตาคนสัญจรไปมาให้อยากเปิดประตูเข้ามาแล้วถอยออก หรือชมดูสวยแล้วก็ไม่ยอมเด็ดไปดมหรือถือติดไม้ติดมือไปด้วยเท่านั้น สตรีที่สวยงาม หรือบุรุษที่หล่อ แต่จิตใจโลเล ไม่มั่นคงนั้น ใครเล่าจะรับไปเลี้ยงจริงๆ ใครเล่าจะพอใจร่วมชีวิตด้วย เขาเพียงแต่ลิ้มลองเล่นแล้วก็ทิ้งขว้างไปเท่านั้นเอง…
น้องหญิงเอ๋ย..วันนี้น้ำใจของเจ้านั้นช่างเหมือนน้ำค้างบนใบพฤกษ์เสียจริงๆ เมื่อยามดึก ดูเหมือนจะรองดื่มได้ แต่พอต้องแสงสุรีย์ส่องสาดเมื่อรุ่งอรุณก็พลันเหือดแห้งหายไป ข้าพเจ้ามารู้น้ำใจของเจ้า เมื่อข้าพเจ้าหัวใจจะขาดรอน เพราะถลำรักลงไปในตัวท่านเสียแล้ว น้องหญิงเอ๋ย..ความรักนั้นข้าพเจ้าพอตัดเสียได้ดอก แต่ความแค้นเพราะท่านหลอกลวงข้าพเจ้าให้หลงรักนี้ชิ จะทำประการใดให้หายแค้นใจได้ ถ้าไม่รักน่าจะแสดงอาการให้รู้ว่าไม่รักเสียแต่ต้น ไม่น่ามาให้ความหวังกันเลยนะ เสียดายที่ยกย่องเจ้านะน้องหญิงเอ๋ย
ดังนั้นจุงกะเอ๋ย..เจ้ารู้จักความเจ็บปวดแล้ว ต่อไปนี้ถ้าเจ้าไม่รักใครแล้วเจ้าจงอย่าให้ความหวังแก่เขาเลยนะ และที่สำคัญเมื่อเจ้ารักใครแล้วเจ้าจงรักเขาคนนั้นตลอดไปจนตราบชั่วนิจนิรันดร์…

วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ใครจะไม่ชอบของแปลก

แน่นอนทีเดียว สตรีย่อมให้ความสนใจแก่สิ่งที่แปลกและใหม่เสมอ เพราะฉะนั้นเพศที่ตื่นสมัยที่สุด ชอบเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย และเครื่องประดับบ่อยที่สุด คือ เพศหญิงนั่นเอง เป็นธรรมชาติ ธรรมดา อย่าไปลงโทษ หรือ เห็นเป็นเรื่องแปลกประหลาดอะไรเลย เพราะความนิยมของใหม่และแปลก เธอจึงมักประดับกายด้วยอาภรณ์ที่สีแปลก รูปทรงแปลกสะดุดตา ชวนมอง อย่าไปวิตกกังวลอะไรเลย นิยมกันเสียพักหนึ่ง เห่อกันไปพักหนึ่งแล้วก็หายไปเองแหละครับ จริงดังคำว่า“มีปกติรักง่ายหน่ายเร็ว ดังผ้าที่ย้อมด้วยขมิ้น” นั่นเองครับ.

วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เรียนทำไมครับ

วิชาความรู้ที่ศึกษาไปนั้น จงใช้ให้เป็นประโยชน์ให้มากที่สุด วิชาที่ไม่ได้ใช้เหมือนอาหารที่บริโภคแล้วไม่ย่อย มีแต่จะก่อความอึดอัดรำคาญและเป็นพิษ อย่าคอยโอกาสให้คนอื่นใช้เสียก่อนแล้วจึงค่อยใช้วิชา เราจงใช้วิชาเสียก่อน เมื่อผู้อื่นเห็นคุณค่าของวิชาในตัวเราแล้ว เขาก็พลอยเห็นเจ้าของวิชามีคุณค่าไปด้วย คนที่บ่นว่ามีวิชาความรู้แต่ไม่มีโอกาสนั้น คือ คนที่คอยแต่ให้ราชรถมาเกยแล้วจึงค่อยทำอะไรๆ ความจริงในชีวิตเป็นอีกอย่างหนึ่ง คือ คนต้องทำอะไรๆ แสดงความสามารถเสียก่อนแล้ว ราชรถจึงจะมาเกย เพื่อให้เราแสดงความสามารถต่อไปจงเชื่อเถิดว่า คนที่มีความเพียรและมีความสามารถนั้น โอกาสจะเจริญก้าวหน้าย่อมมีอยู่เสมอ ในโลกนี้ล้นหลามไปด้วยคนที่สามารถไม่ถึงงานในหน้าที่ของตน แต่คนที่สามารถเหมาะแก่งานในหน้าที่หรือมีความสามารถเหนืองานในหน้าที่ของตนนั้นมีอยู่น้อย ยังหาได้ยากอยู่ เมื่อเป็นดังนี้ ไฉนเล่าคนจะไม่ต้องการผู้ที่มีความสามารถ ขอให้เจ้ามีความสามารถจริงเถิดอภินันท์เอ๋ย ข้ารับรองเจ้าไม่ตกงานแนะนะครับ…

วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2552

บอกยากจริงๆ

เป็นธรรมดาของสตรีที่เริ่มจะรักใครสักคน เธอมักไม่ค่อยรู้ บอกตัวเองไม่ถูกว่าเธอสนใจอะไรในตัวเขา ทั้งๆ ที่บางทีเขาคนนั้น รูปก็ไม่งามเท่าคนอื่น กิริยา ท่าทางก็ไม่น่าภาคภูมิใจเหมือนคนอื่น แต่เธอก็สนใจและที่สำคัญเธอก็บอกไม่ได้ว่า อะไรทำให้เธอสนใจเขา เป็นห่วงเขา ไม่รู้จริง บอกข้าพเจ้าหน่อยชิครับผม ว่าเป็นเพราะอะไร…

วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ใครแน่กว่าใคร

จงข่มคนที่ควรข่ม ยกย่องคนที่ควรยกย่อง อย่ายกย่องคนที่ควรข่ม หรือข่มคนที่ควรยกย่อง อย่าหลงรักใคร่คนที่ทำความดีเพียงเอาหน้า อย่าเพิกเฉยไม่เห็นคุณค่าของมิตรที่มีความซื่อสัตย์สุจริตต่อตนเองเลยนะครับ และจงเอาชนะคนสูงศักดิ์ด้วยการอ่อนน้อม คนต่ำต้อยด้วยการสงเคราะห์ เอื้อเฟื้อ คนแกล้วกล้าด้วยการให้แตกสามัคคี คนเสมอกันด้วยความพยายามอย่างมากนะครับ…

วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เป็นกำบังช่วยกัน

ผู้ที่ป้องกันตนเองให้รอดพ้นจากความเสื่อม ชื่อว่าช่วยป้องกันคนอื่นด้วย และผู้ที่ป้องกันคนอื่นจากภัยพิบัติ ก็ชื่อว่าได้ป้องกันตนเองพร้อมๆกันไป เหมือนเมื่อไฟไหม้บ้านเรา ถ้าไม่รีบดับไฟเสีย ไฟนั้นจะลุกลามไปไหม้บ้านคนอื่น หรือเมื่อไฟไหม้บ้านคนอื่น ถ้าไม่รีบดับก็จะลุกลามมาไหม้บ้านเราด้วยเช่นกัน ฉะนั้น จงคุ้มครองตนให้ดีนะ ก็เท่ากับเรากำลังคุ้มครองคนอื่นด้วยนะครับอภินันท์…

วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2552

คิดดูเหมือนกระโถนจริงเรา

จริงทีเดียว การที่ได้พูดถึงคนอันเป็นที่รักกับใครสักคนหนึ่ง เป็นความชื่นสุขของผู้ที่ตกอยู่ในห้องแห่งความรัก การที่สตรีบางคนยอมตีสนิทกับเพื่อนชายของคนรักแห่งตน จุดประสงค์ก็เพื่อได้พูดถึงคนอันเป็นที่รัก บุรุษก็เช่นเดียวกัน แต่บางคนก็ระแวงจนเกินเหตุ จึงมักเกิดเรื่องเข้าใจผิดกันในเรื่องทำนองนี้อยู่มากบ้าง น้อยบ้าง มนุษย์เราย่อมจะอิ่มเอม เมื่อได้พูดถึงสิ่ง หรือบุคคลที่เขารักและภูมิใจ ฟังไปเถิด–ฟังไปอย่างยิ้มแย้มแจ่มใสเถิดอภินันท์เอ๋ย เจ้าจงนึกเสียว่าทำตนเป็นเครื่องรองรับการระบายความสุขแห่งเขา เป็นการทำความดีแก่ผู้อื่นโดยไม่ต้องลงทุนอะไรมากนัก นอกจากหัดอดทนเสียอย่างเดียว และในความอดทนนั้น ยังได้ทราบเรื่องอะไรดีๆ อีกด้วย เมื่อเขามีทุกข์ก็เช่นกัน มนุษย์เราอยากได้ใครสักคนหนึ่ง ซึ่งยอมรับรู้ในความทุกข์ยากของเขา บางทีเขาไม่ต้องการความช่วยเหลืออะไร เขาต้องการเพียงใครสักคนหนึ่งยอมรับรู้ในความทุกข์ยากลำบากของเขาเท่านั้น ดังนั้น เราจึงมักจะได้ยินใครต่อใครมาเล่า มาระบายความกลุ้มอกกลุ้มใจให้ฟัง แล้วเขาก็จากไปด้วยความรู้สึกที่สบายใจ ตราบใดที่มนุษย์เรายังยอมเป็นทาสแห่งอารมณ์ ยังไม่เป็นนายของตัวเอง ยังเอาชนะตัวเองไม่ได้ ตราบนั้น มนุษย์เราก็ต้องแสวงหาที่พึ่งทางอารมณ์และทางจิตใจจากภายนอกอยู่ร่ำไป สิ่งที่ทำให้บุคคลลำบาก เดือดร้อนอยู่เสมอนั้น มิใช่สิ่งภายนอกหรืออื่นใด อันที่แท้จริง คือ อารมณ์ตัวเอง ซึ่งคอยรบเร้าเง้างอดไปทางใดทางหนึ่งที่เจ้าตัวพยายามเอาชนะ แต่ก็เอาชนะไม่ได้ อารมณ์รัก อารมณ์ชัง อารมณ์โกรธ อารมณ์หลง คลุกเคล้าผสมผสานอยู่ในกระแสธานแห่งชีวิตอันไหลเลื่อนอยู่มิขาดสายนั่นเองนะครับผม…