วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2552

คิดดูเหมือนกระโถนจริงเรา

จริงทีเดียว การที่ได้พูดถึงคนอันเป็นที่รักกับใครสักคนหนึ่ง เป็นความชื่นสุขของผู้ที่ตกอยู่ในห้องแห่งความรัก การที่สตรีบางคนยอมตีสนิทกับเพื่อนชายของคนรักแห่งตน จุดประสงค์ก็เพื่อได้พูดถึงคนอันเป็นที่รัก บุรุษก็เช่นเดียวกัน แต่บางคนก็ระแวงจนเกินเหตุ จึงมักเกิดเรื่องเข้าใจผิดกันในเรื่องทำนองนี้อยู่มากบ้าง น้อยบ้าง มนุษย์เราย่อมจะอิ่มเอม เมื่อได้พูดถึงสิ่ง หรือบุคคลที่เขารักและภูมิใจ ฟังไปเถิด–ฟังไปอย่างยิ้มแย้มแจ่มใสเถิดอภินันท์เอ๋ย เจ้าจงนึกเสียว่าทำตนเป็นเครื่องรองรับการระบายความสุขแห่งเขา เป็นการทำความดีแก่ผู้อื่นโดยไม่ต้องลงทุนอะไรมากนัก นอกจากหัดอดทนเสียอย่างเดียว และในความอดทนนั้น ยังได้ทราบเรื่องอะไรดีๆ อีกด้วย เมื่อเขามีทุกข์ก็เช่นกัน มนุษย์เราอยากได้ใครสักคนหนึ่ง ซึ่งยอมรับรู้ในความทุกข์ยากของเขา บางทีเขาไม่ต้องการความช่วยเหลืออะไร เขาต้องการเพียงใครสักคนหนึ่งยอมรับรู้ในความทุกข์ยากลำบากของเขาเท่านั้น ดังนั้น เราจึงมักจะได้ยินใครต่อใครมาเล่า มาระบายความกลุ้มอกกลุ้มใจให้ฟัง แล้วเขาก็จากไปด้วยความรู้สึกที่สบายใจ ตราบใดที่มนุษย์เรายังยอมเป็นทาสแห่งอารมณ์ ยังไม่เป็นนายของตัวเอง ยังเอาชนะตัวเองไม่ได้ ตราบนั้น มนุษย์เราก็ต้องแสวงหาที่พึ่งทางอารมณ์และทางจิตใจจากภายนอกอยู่ร่ำไป สิ่งที่ทำให้บุคคลลำบาก เดือดร้อนอยู่เสมอนั้น มิใช่สิ่งภายนอกหรืออื่นใด อันที่แท้จริง คือ อารมณ์ตัวเอง ซึ่งคอยรบเร้าเง้างอดไปทางใดทางหนึ่งที่เจ้าตัวพยายามเอาชนะ แต่ก็เอาชนะไม่ได้ อารมณ์รัก อารมณ์ชัง อารมณ์โกรธ อารมณ์หลง คลุกเคล้าผสมผสานอยู่ในกระแสธานแห่งชีวิตอันไหลเลื่อนอยู่มิขาดสายนั่นเองนะครับผม…

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น