วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ใครโง่กว่าใคร

มีบ่อยครั้งเหลือเกินในโลกอันยุ่งเหยิงนี้ ที่สตรีหยิบยื่นหัวใจอันมีค่ายิ่งของเธอเพียงเพื่อแลกกับอารมณ์ของชาย โดยที่เธอไม่รู้ว่านั่นเป็นเพียงอารมณ์ของเขา มิใช่หัวใจหรือความรู้สึกที่แท้จริงอะไรเลย ยิ่งถ้าเธอเคราะห์ร้ายไปสมาคมด้วยชาย ซึ่งมีลิ้นอันราดรดฉาบทาไว้ด้วยน้ำตาลด้วยแล้ว เธอจะลิ้มแต่ความหวานซึ่งกระเซ็นออกมาจากปลายลิ้นของเขามิเว้นแต่ละวัน แต่ทั้งนี้มิได้หมายความว่าชายที่พูดหวานหูนั้น จะปราศจากความจริงใจและความซื่อสัตย์เสียทุกคนไป บางทีเธอก็รู้ว่านั้นเป็นอารมณ์ของเขามิใช่หัวใจเขา แต่เธอก็ยินยอมทั้ง ๆ ที่รู้นั่นเอง อะไรทำให้เธอยินยอม เป็นเรื่องที่เธอตอบไม่ได้ ตอบไม่ได้ว่าเพราะอะไร มีอยู่เหมือนกันมิใช่หรือที่สตรียินยอมมอบกายให้โดยที่ใจไม่ยินยอม สตรีทำได้ในทำนองเดียวกันบางคราวใจเธอก็ยินยอม แต่เธอไม่ยอมมอบกายให้
ความจริงข้อหนึ่งที่พวกผู้ชายมักจะมองข้ามไปเสีย คือสตรีนั้นมีความฉลาดในเล่ห์กลของมนุษย์ และเหลี่ยมคูของผู้ชาย แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าชายเธอมักแกล้งทำเป็นไม่รู้ พวกผู้ชายจึงเข้าใจว่าเธอโง่ ความจริงในเรื่องทำนองผู้ชายโง่กว่าผู้หญิงมากนัก การที่เข้าใจว่าผู้หญิงโง่นั้น ทำให้ผู้ชายรุกล้ำเข้าไปในวงชีวิตของเธออย่างทะนง และห้าวหาญ สตรีส่วนใหญ่มีสายเลือดมด มีธาตุสำลีอยู่มาก ในที่สุดเธอก็ยอม ยอมดื่มน้ำตาล และลอยคว้างเหมือสำลีที่ถูกลมแรงพัด
ความจริงอีกข้อหนึ่งซึ่งสตรีได้ก้าวหน้าไปไกลกว่าชายมาก คือ มีความรู้สึกว่า มีบางสิ่งบางอย่างในโลกนี้ที่ดีกว่า สดสวยกว่าความใคร่ทางร่างกาย ดังนั้นความรักของเธอจึงละเมียดละมัย อ่อนนุ่มและสูงส่งเหนือความใคร่ทางเนื้อหนัง ผิดกับความรักของชายซึ่งมักจะมีแต่ความเร่าร้อนและความปรารถนา มีความต้องการความสุขทางความใคร่ที่ฉาบฉวย ความปรารถนาของเขาเหมือนเด็กที่ต้องการกินข้าวต้มที่ยังร้อน ซึ่งเพิ่งยกลงจากเตาใหม่ ๆ ไม่ค่อยรู้จักรั้งรอเวลาอันเหมาะสม ผู้ชายจึงมักลิ้นพอง เจ็บปวด เพราะเรื่องทำนองนี้อยู่เนือง ๆ และในที่สุดผู้หญิงก็ต้องยอม ยอมเหมือนมารดาที่มีความกรุณา ไม่อาจทนต่อการรบเร้าเง้างอของลูกอีกต่อไป เมื่อเด็กน้อยได้กินข้าวต้มสมอยากแล้ว ก็ทิ้งชามจานไว้ให้เป็นภาระของมารดา แล้วออกวิ่งเล่นกับเพื่อนฝูงอย่างสนุกสนานเพลิดเพลินโดยมิต้องคำนึงว่า มารดาจะต้องรับผิดชอบอะไรบ้างและเหน็ดเหนื่อยเพียงใด
ผู้ชายส่วนใหญ่เป็นเพศที่ค่อนข้างเห็นแก่ตัวในเรื่องนี้ เขากินสบาย นอนสบาย เขามักจะคำนึงถึงและรู้จักแต่ความสุขสำราญแห่งตน ไม่ค่อยนำพาต่อหน้าที่หรือความรับผิดชอบร่วมกัน เขาเกิดมาเป็นชาย เขาภาคภูมิใจในความเป็นชายของเขา นอกจากนี้สิ่งแวดล้อมทั้งทางร่างกาย และสังคมยังเปิดโอกาสให้เขาใช้ความเป็นผู้ชายอย่างเต็มที่อีกด้วย ดังนั้น จึงไม่ต้องสงสัยเลยที่ผู้ชายบางคนใช้สิทธิเสรีภาพแห่งความเป็นชายเสียจนเกือบไม่เหลือ ความเป็นคน อยู่ในเรือนร่างและจิตใจของเขานะครับ…

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น