วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2552

อาภรณ์ของนักปราชญ์

นักปราชญ์มีความทุกข์ ความเดือดร้อนอยู่เรื่องเดียว คือ ความไม่มีคุณธรรมวิชชาในตัว ปราชญ์มีความเห็นตรงกันว่า คุณธรรมและวิชชาเป็นอาภรณ์อันประเสริฐสุดอยู่แล้ว จึงไม่ต้องการหาอาภรณ์ภายนอกให้ยุ่งยากใจอีกนะครับผม แล้วอภินันท์เจ้ามีความต้องการอาภรณ์แบบนี้บ้างหรือไม่ หรือว่าต้องการแต่อาภรณ์คือสตรีเท่านั้นหรือ เจ้าไม่อยากเป็นนักปราชญ์กับเขาบ้างหรือครับอภินันท์…

วันพุธที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2552

แด่คนรู้ใจ

เพราะฉันเองเคยถูกทรยศเรื่องรักมาทำนองเดียวกับท่านนี้ หล่อนเป็นสาวบ้านป่าซึ่งเคยเป็นเรือนใจของข้าพเจ้าในสมัยหนึ่ง ข้าพเจ้าได้รักเธอ ยกย่องเชิดชูเธอ เช่นเดียวกับที่ท่านมีความรู้สึกต่อคนรักเก่าของท่าน ข้าพเจ้าได้ประสบปัญหาเช่นเดียวกับท่าน เราจึงสามารถอนุมานความรู้สึกของท่านได้ว่า เจ็บปวด และขมขื่นเพียงใด เราเป็นคนซื่อ เมื่อรักใครแล้วก็รักอย่างทุ่มเท มิได้เผื่อใจไว้สำหรับความผิดหวังเลย คนซื่อก็มักจะถูกหลอกเพราะมัวนึกว่าคนอื่นจะซื่อเหมือนตัวเรา แต่คนที่ใครๆ หลอกไม่ได้นั้นคือ “คนที่หลอกลวงคนอื่นเสมอ”…

วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2552

สาเหตุแห่งรัก

ความพร่องนั่นเอง ทำให้คนต้องแสวงหาความรักและสิ่งที่รัก ที่คนรักกันนั้นไม่ใช่เพราะมีอารมณ์รัก แต่เพราะเขารู้สึกว่า ถ้าไม่ได้รักดูเหมือนจะขาดอะไรไปสักอย่างหนึ่งในชีวิตตราบใดที่ยังไม่มีที่รัก ตราบนั้นดูเหมือนว่าชีวิตยังไม่มีความสมบูรณ์แท้ ฉะนั้น การที่เรารักจึงมิใช่เพราะความรักอะไรเลย ที่แท้ความรักช่วยให้เรามีความรู้สึกสมบูรณ์ ไม่ขาด ไม่พร่อง ดังนั้น ผู้มีความสมบูรณ์ในตนย่อมไม่ต้องการที่รัก ไม่ต้องการความรักอีกนะครับ แล้วเจ้าละอภินันท์เจ้าเป็นคนสมบูรณ์แบบหรือไม่นะ ข้ามองว่าเจ้ายังไม่สมบูรณ์แบบนะ เพราะเจ้ายังต้องการความรัก และคนรักอยู่นะ…

วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2552

กรรมของใคร

นอกจากนักล่าคนในด้านชีวิต คือ ทำลาย ฆ่าล้างชีวิตแล้ว ยังมีนักล่าจิตใจ ทำลายจิตใจของผู้อื่นก็มีอยู่มิใช่น้อย สร้างรอยแผลรอยซ้ำให้แก่ผู้อื่นจนกลายเป็นความหลังอันไม่มีวันลืมเลือนได้ บางทีเพศชายก็มีความภูมิใจผิดๆ ว่า ถ้าได้ล่าเพศตรงข้ามได้จำนวนมากเท่าใด ก็แสดงถึงความเก่งกล้าสามารถเท่านั้น เขาถือเสมือนว่าเพศหญิงทุกคนเป็นศัตรูของเขา เมื่อผ่านเข้ามาในชีวิตจะต้องทำลายล้างให้หมด แต่บางทีก็เป็นความคิดของเพศหญิงด้วยเหมือนกัน ยิ่งในสังคมปัจจุบันยิ่งมีมากนะครับ ที่การกระทำบางอย่างอันเป็นเหตุก่อความซอกซ้ำและความผิดหวังแก่ชายมากจนเขาไม่อาจคงความเป็นสุภาพบุรุษอยู่ได้อีกต่อไป จึงต้องล้างผลาญทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตด้วย เธอได้ก่อสิ่งอันเป็นอันตรายอย่างยิ่ง แก่มนุษย์เพศเดียวกับเธอไว้ กรรมอันให้ผลแก่มนุษย์เพศเดียวกัน จึงแสดงฤทธิ์ต่อไป จนกว่าบุคคลผู้มีส่วนร่วมในกรรมอันนั้นจะไปกระทบเข้ากับอะไรสักอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นเหตุให้เขาหันหลังกลับอีก…

วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เคียงคู่กัน

สามีและภรรยา ควรจะให้ความสุขแก่กันและกันทุกประการ คอยปลอบใจเมื่อเวลาเศร้า ประคับประคองเมื่อเวลารวนเร ให้กำลังใจเมื่อเขาประกอบคุณงามความดี คอยให้สติเมื่อหลงไหลมัวเมา เมื่อยามบรรทมก็มีความละอายดุจชายหญิง เมื่อมองพักตร์ก็เสงี่ยมงาม เมื่อใครโกธรก็รู้จักข่มใจคอยปลอบใจให้หายพิโรธลง ทำตนเป็นประดุจบ้านที่ก่อด้วยอิฐหนา ยามหนาวก็อบอุ่น ยามร้อนก็เย็นสบาย ยามใครยั่วเย้าแสดงความสนิทสนมก็ไม่ล่วงเกินเลยขอบเขต เมื่อมีความทุกข์ก็อดทน ยามสุขก็สงบเสงี่ยม ไม่ปล่อยใจให้หลงไหลมัวเมา สตรีหรือบุรุษที่สมบูรณ์ด้วยลักษณะเช่นนี้ ย่อมควรแก่ผู้มีบุญอย่างแท้จริง และสามารถให้ลูกที่ดีแก่ผู้ที่เป็นสามีและภรรยาอีกด้วยนะครับ ที่สำคัญอภินันท์ก็กำลังหาอยู่นะครับผม ถ้ามีบอกให้ด้วยจะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง…

วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2552

สวยจริงแต่เขาก็วิ่งผ่าน

ความงาม ความสวย ความหล่อ ในร่างกายของผู้ชาย หรือผู้หญิงจะมีค่าอะไร เมื่อใจของพวกเขาปราศจากความมั่นคง ใครเล่าจะพอใจนอนในบ้านซึ่งฉาบทาด้วยสีอันสวยงาม แต่ทว่าภายในบ้าน ทั้งเสา ขื่อ กลอน และเครื่องค้ำจุน อื่นๆ ผุหมดแล้ว ใครเล่าจะชอบใจ พอใจกับดอกไม้ที่มีสีสวย แต่ไร้กลิ่น มันเพียงแต่ล่อตาคนสัญจรไปมาให้อยากเปิดประตูเข้ามาแล้วถอยออก หรือชมดูสวยแล้วก็ไม่ยอมเด็ดไปดมหรือถือติดไม้ติดมือไปด้วยเท่านั้น สตรีที่สวยงาม หรือบุรุษที่หล่อ แต่จิตใจโลเล ไม่มั่นคงนั้น ใครเล่าจะรับไปเลี้ยงจริงๆ ใครเล่าจะพอใจร่วมชีวิตด้วย เขาเพียงแต่ลิ้มลองเล่นแล้วก็ทิ้งขว้างไปเท่านั้นเอง…
น้องหญิงเอ๋ย..วันนี้น้ำใจของเจ้านั้นช่างเหมือนน้ำค้างบนใบพฤกษ์เสียจริงๆ เมื่อยามดึก ดูเหมือนจะรองดื่มได้ แต่พอต้องแสงสุรีย์ส่องสาดเมื่อรุ่งอรุณก็พลันเหือดแห้งหายไป ข้าพเจ้ามารู้น้ำใจของเจ้า เมื่อข้าพเจ้าหัวใจจะขาดรอน เพราะถลำรักลงไปในตัวท่านเสียแล้ว น้องหญิงเอ๋ย..ความรักนั้นข้าพเจ้าพอตัดเสียได้ดอก แต่ความแค้นเพราะท่านหลอกลวงข้าพเจ้าให้หลงรักนี้ชิ จะทำประการใดให้หายแค้นใจได้ ถ้าไม่รักน่าจะแสดงอาการให้รู้ว่าไม่รักเสียแต่ต้น ไม่น่ามาให้ความหวังกันเลยนะ เสียดายที่ยกย่องเจ้านะน้องหญิงเอ๋ย
ดังนั้นจุงกะเอ๋ย..เจ้ารู้จักความเจ็บปวดแล้ว ต่อไปนี้ถ้าเจ้าไม่รักใครแล้วเจ้าจงอย่าให้ความหวังแก่เขาเลยนะ และที่สำคัญเมื่อเจ้ารักใครแล้วเจ้าจงรักเขาคนนั้นตลอดไปจนตราบชั่วนิจนิรันดร์…

วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ใครจะไม่ชอบของแปลก

แน่นอนทีเดียว สตรีย่อมให้ความสนใจแก่สิ่งที่แปลกและใหม่เสมอ เพราะฉะนั้นเพศที่ตื่นสมัยที่สุด ชอบเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย และเครื่องประดับบ่อยที่สุด คือ เพศหญิงนั่นเอง เป็นธรรมชาติ ธรรมดา อย่าไปลงโทษ หรือ เห็นเป็นเรื่องแปลกประหลาดอะไรเลย เพราะความนิยมของใหม่และแปลก เธอจึงมักประดับกายด้วยอาภรณ์ที่สีแปลก รูปทรงแปลกสะดุดตา ชวนมอง อย่าไปวิตกกังวลอะไรเลย นิยมกันเสียพักหนึ่ง เห่อกันไปพักหนึ่งแล้วก็หายไปเองแหละครับ จริงดังคำว่า“มีปกติรักง่ายหน่ายเร็ว ดังผ้าที่ย้อมด้วยขมิ้น” นั่นเองครับ.

วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เรียนทำไมครับ

วิชาความรู้ที่ศึกษาไปนั้น จงใช้ให้เป็นประโยชน์ให้มากที่สุด วิชาที่ไม่ได้ใช้เหมือนอาหารที่บริโภคแล้วไม่ย่อย มีแต่จะก่อความอึดอัดรำคาญและเป็นพิษ อย่าคอยโอกาสให้คนอื่นใช้เสียก่อนแล้วจึงค่อยใช้วิชา เราจงใช้วิชาเสียก่อน เมื่อผู้อื่นเห็นคุณค่าของวิชาในตัวเราแล้ว เขาก็พลอยเห็นเจ้าของวิชามีคุณค่าไปด้วย คนที่บ่นว่ามีวิชาความรู้แต่ไม่มีโอกาสนั้น คือ คนที่คอยแต่ให้ราชรถมาเกยแล้วจึงค่อยทำอะไรๆ ความจริงในชีวิตเป็นอีกอย่างหนึ่ง คือ คนต้องทำอะไรๆ แสดงความสามารถเสียก่อนแล้ว ราชรถจึงจะมาเกย เพื่อให้เราแสดงความสามารถต่อไปจงเชื่อเถิดว่า คนที่มีความเพียรและมีความสามารถนั้น โอกาสจะเจริญก้าวหน้าย่อมมีอยู่เสมอ ในโลกนี้ล้นหลามไปด้วยคนที่สามารถไม่ถึงงานในหน้าที่ของตน แต่คนที่สามารถเหมาะแก่งานในหน้าที่หรือมีความสามารถเหนืองานในหน้าที่ของตนนั้นมีอยู่น้อย ยังหาได้ยากอยู่ เมื่อเป็นดังนี้ ไฉนเล่าคนจะไม่ต้องการผู้ที่มีความสามารถ ขอให้เจ้ามีความสามารถจริงเถิดอภินันท์เอ๋ย ข้ารับรองเจ้าไม่ตกงานแนะนะครับ…

วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2552

บอกยากจริงๆ

เป็นธรรมดาของสตรีที่เริ่มจะรักใครสักคน เธอมักไม่ค่อยรู้ บอกตัวเองไม่ถูกว่าเธอสนใจอะไรในตัวเขา ทั้งๆ ที่บางทีเขาคนนั้น รูปก็ไม่งามเท่าคนอื่น กิริยา ท่าทางก็ไม่น่าภาคภูมิใจเหมือนคนอื่น แต่เธอก็สนใจและที่สำคัญเธอก็บอกไม่ได้ว่า อะไรทำให้เธอสนใจเขา เป็นห่วงเขา ไม่รู้จริง บอกข้าพเจ้าหน่อยชิครับผม ว่าเป็นเพราะอะไร…

วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ใครแน่กว่าใคร

จงข่มคนที่ควรข่ม ยกย่องคนที่ควรยกย่อง อย่ายกย่องคนที่ควรข่ม หรือข่มคนที่ควรยกย่อง อย่าหลงรักใคร่คนที่ทำความดีเพียงเอาหน้า อย่าเพิกเฉยไม่เห็นคุณค่าของมิตรที่มีความซื่อสัตย์สุจริตต่อตนเองเลยนะครับ และจงเอาชนะคนสูงศักดิ์ด้วยการอ่อนน้อม คนต่ำต้อยด้วยการสงเคราะห์ เอื้อเฟื้อ คนแกล้วกล้าด้วยการให้แตกสามัคคี คนเสมอกันด้วยความพยายามอย่างมากนะครับ…

วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เป็นกำบังช่วยกัน

ผู้ที่ป้องกันตนเองให้รอดพ้นจากความเสื่อม ชื่อว่าช่วยป้องกันคนอื่นด้วย และผู้ที่ป้องกันคนอื่นจากภัยพิบัติ ก็ชื่อว่าได้ป้องกันตนเองพร้อมๆกันไป เหมือนเมื่อไฟไหม้บ้านเรา ถ้าไม่รีบดับไฟเสีย ไฟนั้นจะลุกลามไปไหม้บ้านคนอื่น หรือเมื่อไฟไหม้บ้านคนอื่น ถ้าไม่รีบดับก็จะลุกลามมาไหม้บ้านเราด้วยเช่นกัน ฉะนั้น จงคุ้มครองตนให้ดีนะ ก็เท่ากับเรากำลังคุ้มครองคนอื่นด้วยนะครับอภินันท์…

วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2552

คิดดูเหมือนกระโถนจริงเรา

จริงทีเดียว การที่ได้พูดถึงคนอันเป็นที่รักกับใครสักคนหนึ่ง เป็นความชื่นสุขของผู้ที่ตกอยู่ในห้องแห่งความรัก การที่สตรีบางคนยอมตีสนิทกับเพื่อนชายของคนรักแห่งตน จุดประสงค์ก็เพื่อได้พูดถึงคนอันเป็นที่รัก บุรุษก็เช่นเดียวกัน แต่บางคนก็ระแวงจนเกินเหตุ จึงมักเกิดเรื่องเข้าใจผิดกันในเรื่องทำนองนี้อยู่มากบ้าง น้อยบ้าง มนุษย์เราย่อมจะอิ่มเอม เมื่อได้พูดถึงสิ่ง หรือบุคคลที่เขารักและภูมิใจ ฟังไปเถิด–ฟังไปอย่างยิ้มแย้มแจ่มใสเถิดอภินันท์เอ๋ย เจ้าจงนึกเสียว่าทำตนเป็นเครื่องรองรับการระบายความสุขแห่งเขา เป็นการทำความดีแก่ผู้อื่นโดยไม่ต้องลงทุนอะไรมากนัก นอกจากหัดอดทนเสียอย่างเดียว และในความอดทนนั้น ยังได้ทราบเรื่องอะไรดีๆ อีกด้วย เมื่อเขามีทุกข์ก็เช่นกัน มนุษย์เราอยากได้ใครสักคนหนึ่ง ซึ่งยอมรับรู้ในความทุกข์ยากของเขา บางทีเขาไม่ต้องการความช่วยเหลืออะไร เขาต้องการเพียงใครสักคนหนึ่งยอมรับรู้ในความทุกข์ยากลำบากของเขาเท่านั้น ดังนั้น เราจึงมักจะได้ยินใครต่อใครมาเล่า มาระบายความกลุ้มอกกลุ้มใจให้ฟัง แล้วเขาก็จากไปด้วยความรู้สึกที่สบายใจ ตราบใดที่มนุษย์เรายังยอมเป็นทาสแห่งอารมณ์ ยังไม่เป็นนายของตัวเอง ยังเอาชนะตัวเองไม่ได้ ตราบนั้น มนุษย์เราก็ต้องแสวงหาที่พึ่งทางอารมณ์และทางจิตใจจากภายนอกอยู่ร่ำไป สิ่งที่ทำให้บุคคลลำบาก เดือดร้อนอยู่เสมอนั้น มิใช่สิ่งภายนอกหรืออื่นใด อันที่แท้จริง คือ อารมณ์ตัวเอง ซึ่งคอยรบเร้าเง้างอดไปทางใดทางหนึ่งที่เจ้าตัวพยายามเอาชนะ แต่ก็เอาชนะไม่ได้ อารมณ์รัก อารมณ์ชัง อารมณ์โกรธ อารมณ์หลง คลุกเคล้าผสมผสานอยู่ในกระแสธานแห่งชีวิตอันไหลเลื่อนอยู่มิขาดสายนั่นเองนะครับผม…

วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ข้าทำไม่ลง

เมื่อพวกผู้หญิงอยู่ในวัยสาวและวัยสวย พวกเขาย่อมปรารถนาจะหาคู่ครองแต่งงานด้วยนั้น เขาย่อมหวังใจว่า ชายคู่ครองของเขาจะสามารถเป็นหลักประกันชีวิตในยามแก่เฒ่าและยามสิ้นความสวยของเขา ข้าพเจ้าได้รับอาสาเป็นหลักประกันชีวิตในยามแก่เฒ่าและยามสิ้นความสวยของภรรยาของข้าพเจ้าไว้ตั้งแต่เขายังอยู่ในวัยสาวและวัยสวย บัดนี้ถึงเวลาที่ภรรยาของข้าพเจ้าได้เข้าสู่วัยแก่และสิ้นความสวยแล้ว จะให้ข้าพเจ้าทรยศทอดทิ้งเขาไปได้อย่างไรกันเล่าครับผม โอ้ซึ้งจริงๆ นะถ้าผู้ชายคิดแบบนี้ ปัญหาครอบครัวแตกแยก ปัญหาเด็กขาดความอบอุ่นคงจะไม่เกิดขึ้นนะครับ

วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2552

มันแปลกจริงๆ

มันแปลกจริงๆ ความสัมพันธ์ระหว่างเพศนั้น ความรู้สึกคอยจะหลบหลีกกันอยู่เสมอ เมื่อฝ่ายหนึ่งรัก อีกฝ่ายหนึ่งก็ไม่สมัครใจ เมื่อฝ่ายหนึ่งใฝ่ฝันหา อีกฝ่ายหนึ่งก็มักจะเลี่ยงหนี หรือจะพูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือว่า คนที่เขารักเรา เราก็ไม่ค่อยจะสนใจเขา แต่คนที่เรารักเขา เขาก็ไม่ค่อยให้ความหวังแก่เรา ความรักระหว่างเพศคอยจะหลีกเลี่ยงกันอยู่อย่างนี้ มีน้อยเหลือเกินที่ความรู้สึกจะไปตรงกันเข้า เมื่อใดความรู้สึกไปตรงกันเข้า เมื่อนั้นย่อมหมายถึง การร่วมชีวิต การแต่งงาน การผู้พันธ์ทั้งทางร่างกายและจิตใจ เป็นเครื่องผูกที่ผูกหย่อนๆ แต่แก้ได้ยาก เพราะในความผูกพันธ์นั้น มีความสมัครใจ ความสมยอมอยู่ด้วย เสมือนบุคคลพอใจบริโภคอาหารที่มีรสเผ็ด แม้จะรู้สึกว่าเผ็ด ก็ยังพอใจอยู่ในรสนั่นนั่นแหละครับ แปลกจริงๆ คนเรา…

วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2552

อย่าได้ดูถูกคนเลย

คนมีทรัพย์ ก็มักทนงตนเพราะทรัพย์ แล้วดูถูกเหยียดหยามผู้อื่นซึ่งต่ำต้อยยากจนกว่า คนมีวัยสมบูรณ์กำลังเป็นหนุ่มเป็นสาวก็มักหลงในวัยสมบัติแห่งตน คนมีวิชาความรู้ถ้าไม่ควบคุมโดยศีลธรรมและมโนธรรม ก็มักยกตนข่มผู้อื่น ภาคภูมิใจในสถาบันการศึกษาแห่งตนว่าเลิศกว่าสถาบันการศึกษาใดๆ จนบางคน เมาสถาบัน เมาวิชา ลืมตัวทั้งๆ ที่เขามิได้ทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอัน เป็นแก่นสารแก่ใครเลย เขาก็ยังภาคภูมิใจอยู่นั่นเองว่า เขาสำเร็จมาจากสถาบันอันมีเกียรติ แล้วเหยียดหยามผู้อื่น สถาบันอื่นอีกด้วย โอ้…การศึกษาไม่ได้ช่วยคนได้มองข้ามเปือกจนพบแก่นได้เลยหรือครับ…

วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ความรักตัวของชายหญิง

นิสัยผู้ชาย ชอบแต่จะหาความสุขในปัจจุบัน ขอให้ได้กินสบาย เที่ยวสบาย มีทรัพย์ใช้ไปเดือนๆ ปีๆ ก็พอใจแล้ว แม้แต่บุคคลทุกคนจะรักตัว แต่ผู้ชายดูเหมือนจะรักตัวน้อย เมื่อเทียบกับความรักตัวของผู้หญิง การที่สตรีรักยาก ทั้งๆ ที่เธอมองเห็นชัดว่า ชายผู้ที่ตนรักนั้นมีคุณลักษณะทุกอย่างที่เธอควรจะรัก ก็เพราะเธอมีความรักตัวเองอย่างเข้มข้นนั่นเอง กว่าจะคลายความรักตัวลงได้แล้ว ค่อยๆ แบ่งความรักตัวไปรักคนอื่น คือ ชายที่เธอเห็นดีเห็นงามก็ต้องใช้เวลานาน แต่เมื่อได้รัก หรือคลายความรักตัวไปรักชายที่เธอรักแล้ว ก็เป็นการยากอีกนั่นแหละที่ผู้หญิงจะเรียกคืนให้เข้ารูปรอยเดิมได้เหมือนปลาไหลที่ปล่อยไปในเปือกตมแล้ว ก็ย่อมยามที่จะจับกลับคืนได้นะครับ…

วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ส่วนตัวจริงๆ

เหตุผลส่วนตัว แน่นอนทีเดียว ทุกคนล้วนมีเหตุผลส่วนตัวในการกระทำและคำพูด ถ้าเหตุผลส่วนตัวนั้นไปสอดคล้องกับเหตุผลของคนส่วนใหญ่ ก็ได้รับการรับรองจากคนทั่วไปว่า เหตุผลนั้นใช้ได้ ถ้าเหตุผลส่วนตัวนั้นไปขัดเข้ากับมติของมหาชน ก็จะกลายเป็นเรื่องเหลวไหลไร้สาระ คนใจแคบจะไม่ยอมรับรู้เหตุผลส่วนตัวของใครทั้งนั้น เขาจะพยายามคะยั้นคะยอให้คนอื่นบอกเหตุผลในการกระทำ และพฤติกรรมต่างๆ โดยไม่คำนึงสักนิดว่า เหตุผลส่วนตัวบางอย่าง เป็นสิ่งที่เขาพูดบอกออกมาไม่ได้ แต่คนใจกว้างกลัวมีพฤติกรรมที่ตรงกันข้ามนะครับ แล้วคุณละเป็นแบบไหนครับ…

วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2552

อำนาจใด ๆ ในโลกนี้มีมากเท่า

มีอะไรอีกไหมในโลกนี้ที่มีอำนาจยั่วยวนใจให้หลงไหลใฝ่ปอง และเร่งเร้าให้จิตใจระลึกถึงด้วยความกังวลยิ่งไปกว่า “อำนาจแห่งความรัก” ในความรักมีบรรยากาศที่ประหลาดที่สุด บรรยากาศแห่งความรักมีทั้งความอบอุ่น ร้อนเร่าและหนาวเหน็บ มีทั้งความสุขและความเศร้าระคนกัน มีทั้งความดีใจ น้อยใจ และเสียใจ มันเป็นทั้งยาบำรุงและยาพิษ เพราะอะไรข้าพเจ้าจึงกล่าวเช่นนี้
เพราะว่า ความรัก เป็นเครื่องชโลมใจ เชื่อมโยมบุคคลสองคนให้ไปมาหากันโดยไม่เบื่อหน่ายที่ไม่มีอะไรเหมือน ความรักเป็นสะพานทอดให้ดวงใจสองดวงกระโดดโลดเต้นเข้าหากัน เมื่อชักสะพานนี้ออกเสียแล้ว การติดต่อเกี่ยวข้องระหว่างบุคคลก็เป็นเพียงหน้าที่เท่านั้น หรือเพราะผลประโยชน์บางอย่าง แต่เมื่อมีความรัก ผู้ที่ตกอยู่ในห้วงรักนั่นเอง จะยอมเสียสละผลประโยชน์แห่งตนเพื่อคนที่ตนรักได้
เมื่ออยู่ใกล้คนรัก ทำให้ลืม ลืมโลก ลืมชีวิต ลืมความสมหวัง ความผิดหวังในเรื่องอื่นๆ เสียงทั้งสิ้น ซึ่งบางครั้งลืมได้แม้กระทั่วตัวเอง ใครจะเกลียดหรือชังก็ตามเถิด แต่อย่างไรก็ตาม ความรักก็ยังมีอานุภาพ มีอำนาจครองความเป็นใหญ่แต่ผู้เดียวในโลกนี้เป็นเวลานานมาแล้ว กำลังเป็นอยู่ และจะอยู่ต่อไปอีกนานเท่านาน เหลือที่จะคาดหมายเอาได้
อนึ่ง แม้ว่าความรักจะไม่มีตัวตน มองเห็นไม่ได้ แต่มันมีอำนาจบัญชาการ มีสิทธิ์นั่งอยู่บนหัวใจของปุถุชนทั้งหลาย บัญชาการให้ทุกอย่างเท่าที่มนุษย์ยอมมอบอำนาจให้มัน โดยเฉพาะความรักที่มีความใคร่สนับสนุนอยู่เบื้องหลังด้วยแล้ว จะใช้อำนาจอย่างไม่ยำเกรงใครเสียเลย ต่อเมื่อมนุษย์ส่วนใหญ่จะทราบว่าตนควรจะดำเนินชีวิตอย่างไร ควรจะปฏิบัติต่อความรักอย่างไรนั้น ก็ได้ถูกความรักย่ำยีมาเสียจนเกือบจะหาตัวตนไม่พบเสียแล้วก็มีนะครับ ผมว่าถูกหรือเปล่าครับท่านผู้อ่านทั้งหลาย…

วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ความหวังของผู้หญิง

อนาคตซึ่งสตรีส่วนใหญ่เป็นห่วง วิตกกังวลพร้อมๆ กันนั้นก็สร้างความหวังขึ้นอย่างบรรเจิดเพริดพราย หวังเพื่อให้อนาคตสดใสและสมบูรณ์จนบางครั้งเลยขอบเขตไป จนกลายเป็นการสร้างวิมานในอากาศก็มี ด้วยคุณลักษณะแห่งการเป็นห่วงอนาคตตรงนี้เอง สตรีจึงมักเป็นคนเก็บออมและสะสมทรัพย์ได้ดีกว่าบุรุษทั้งหลายนะครับ

วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2552

คำสอนแม่

ลูกเอ๋ย…แกเปรียบเสมือนเรือ ถึงแม้จะเป็นเรือลำเล็กๆ ก็ตาม ตอนนี้แกกำลังถูกปล่อยออกจาฝั่ง เพื่อจะแล่นออกไปกลางทะเล แกจะต้องเจอลม เจอพายุ เจอคลื่น เจออุปสรรค และแกคงจะกลัวว่าแกจะไปไม่ถึงฝั่ง แกคงกลัวเรือของแกจะล่มกลางทะเล อย่างไรก็ตาม เรือนั้นเป็นของแก แกเป็นผู้ต่อเรือเอง เป็นผู้ออกแบบเอง ถ้าแกออกแบบดีและต่อเรือดี แกก็จะถึงฝั่งอย่างปลอดภัยเหมือนการออกแบบชีวิต แกเป็นผู้นำชีวิตของแกเองว่าจะให้สดใส หรือขุ่นมัว ต่อให้เป็นเรือใหญ่ หากแล่นไปกลางทะเล เจอลมและคลื่น บางทีมันอาจล่มกลางทะเลได้ ถ้าหากเจ้าของเรือต่อเรือและออกแบบเรือของตัวเองไม่ดีเลย เหมือนชีวิตเจ้า เจ้าต้องเลือกทางเดินเองแล้วในตอนนี้ เพราะเจ้าใหญ่พอตัวแล้วนะลูก แต่ถ้าเมื่อใดเจ้าผิดหวัง เรือเจ้าล่มแม่ก็ยังยินดีให้อภัย และเป็นกำลังใจให้แกเสมอนะ…

วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ใครเล่ารู้ใจข้า

คนทำความชั่วเอง ย่อมเศร้าหมองเอง ใครเล่าจะรู้ข้างในใจของข้าว่า มันทุกข์เพียงใดในเวลานี้ ข้าผ่านผู้คนมามากมาย ไม่เคยกลัวเกรงใคร ไม่เคยยอมแพ้ใคร แต่ข้าพเจ้าไม่เคยเอาชนะใจของข้าพเจ้าได้เลย แม้แต่ครั้งเดียว บางครั้งข้าพเจ้าต้องเป็นฤาษีกินเหี้ยเสมอ (พวกมือถือสาก ปากถือศีล ปากปราศรัย ใจเชือดคอ) แล้วอย่างนี้ จำเป็นด้วยเหรอที่ข้าพเจ้าต้องบอกความทุกข์ภายในใจข้าพเจ้าแก่ใครๆ เสมอ จะสุขจะทุกข์อย่างไรมันก็อยู่ที่ใจมิใช่หรือ…

วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ยิ่งยากยิ่งต้องใจเย็น

เวลาอ่านหนังสือ โดยเฉพาะหนังสือวิชาการที่ยากๆ นั้น เราต้องอ่านด้วยท่าทีที่เอาจริงเอาจัง มีสมาธิสูง พบปัญหาข้อข้องใจต้องค้นคว้า ต้องถามให้กระจ่างแจ้ง อย่างอ่านผ่าน ๆ แบบเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง แล้วคิดว่าตัวเองเจ๋งไปแล้ว เดี๋ยวเถอะจะตกม้าตายในเวลาสอบนะครับตัวเอง…

วันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2552

โกงเขาเราขาดทุน

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในการเป็นคน คือ “ไม่ซื่อสัตย์” สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดของคนหนุ่มสาว คือ ท่วงทำนองที่ซื่อสัตย์ คำว่า “ซื่อสัตย์” หมายถึง ไม่หลอกลวงตนเองและผู้อื่น การไม่หลอก ลวงคนอื่นนั้นอาจจะง่าย แต่การหลอกตัวเองนี้สิยาก ท่วงทำนองที่ซื่อตรง หมายถึง การลุยงาน ไม่เอารัดเอาเปรียบคนอื่น ใครที่คิดจะเอาเปรียบผู้อื่น ผลสุดท้ายมักจะขาดทุนย่อยยับเสมอ ท่านว่าจริงไหม…

วันอังคารที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ความรู้คู่คุณธรรม

คนมีความรู้ดี ความประพฤติไม่ดี เปรียบเสมือนนกตาดี แต่ปีกหัก คนไม่มีความรู้ดี แต่มีความประพฤติดี เปรียบเสมือนนกตาไม่ดี แต่ปีกดี ส่วนคนมีความประพฤติไม่ดี และความรู้ไม่ดี เปรียบเสมือนนกมีทั้งปีกไม่ดี และตาไม่ดี แต่คนมีความรู้ดี มีความประพฤติดี ย่อมเปรียบเสมือนนกมีปีกดี และมีตาดีด้วย ย่อมบินไปได้ไกล และปลอดภัยดีเช่นกันนะครับ แล้วท่านอยากเป็นนกแบบไหนดีและ…

วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ทำไมต้องดอกนี้

อภินันท์เอ๋ย…ท่านดูบุบผาแถบนั้นงามสะพรั่ง ในสวน ในกระถาง ตามถนนหนทาง แต่มันก็มีวันร่วงโรย เหี่ยวเฉาไป ขอข้าพเจ้าเปรียบผู้หญิงเหมือนดอกบุบผาดอกหนึ่ง จะพบว่า บุบผามีดาษดื่นทั่วแผ่นดิน ใยเล่าเจ้าถึงจะต้องได้ลุ่มหลงดอกนี้เพียงดอกเดียวหนักหนาหนออภินันท์….

วันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เอาอะไรกับชีวิต

ชีวิตคล้ายบุบผาร่วง คล้ายใบไม้แห่งเหี่ยว บ้างร่วงหล่น บ้างอับเฉา สุดท้ายไม่เหลืออะไรเลยนอกจากความดีและความชั่วนะครับ…

วันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2552

โลกกว้าง ฟ้าไกล ใจลึก

ถ้าท่านเงยหน้ามองขึ้น ทอดสายตาไปให้ไกลได้เท่าไร ท่านจะพบว่า มีใครๆ อีกเยอะแยะที่ท่านน่าหัวเราะเขา แต่ถ้าท่านก้มหน้าลง จนกระทั่งมองเห็นทรวงอกของตัวท่านเองแล้ว ท่าจะเห็นว่ามีอะไรอีกเยอะแยะที่ท่านจะหัวเราะเยาะตัวท่านเอง…

วันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2552

แพ้แล้ว

สตรีที่เสาะแสวงหาบุรุษที่รักนาง นับเป็นสตรีที่ชาญฉลาด แต่สตรีที่ไม่แสวงหาบุรุษทีรักนางหรือแสวงหาบุรุษที่นางรัก นับเป็นคนปวดร้าว เธอไม่คำนึงว่าผู้อื่นใช่รักเธอหรือไม่ กลับบีบบังคับให้ผู้อื่นรักเธอ เธอรู้ไหม บนเส้นทางแห่งความรัก ข้าพเจ้ารับรองว่าเธอเป็นผู้แพ้ตลอดกาลแล้วนะ…

วันพฤหัสบดีที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ความจริงของชาย

ท่านสุภาพสตรีทั้งหลาย ความรักของชายนั้นดูยากนัก เพราะชายแม้รักน้อย ก็พูดว่ารักมาก แต่เมื่อรักมากจะพูดว่ารักน้อยนั้นไม่เคยมีเลย ผิดกับหญิงมากเลย แม้รักมากก็จะพูดว่ารักน้อย แม้รักน้อยก็จะพูดว่า ไม่รัก ไม่รู้จักเลยเป็นที่สุด นี่คือ สตรีที่มีคุณสมบัติของกุลสตรี และควรแสวงหามาเป็นแม่ของลูกให้ได้นะครับ…

วันพุธที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ความจริงของสตรี

ท่านรู้ไหมมีสตรีคนใดหรือที่จะโกรธหรือเกลียดชายที่ชมตัวเอง แต่ที่ข้าพเจ้านิ่งไปสักครู่นั้นก็เพราะมานึกขวยเขินในใจว่า คำชมของท่านนั้น เกินความจริงเหลือที่ข้าพเจ้าจะรับได้ จึงอยากจะปล่อยให้คำของท่านผ่านไปพร้อมๆ กับกระแสลมที่พัดผ่านมาเสียก่อนแล้วจึงค่อยสนทนากับท่านต่อนะ ท่านพี่…

วันอังคารที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เหตุแห่งรัก

ความสงสารเป็นทัพหน้าของความรักสำหรับชาย พอๆ กับความละอายเป็นเบื้องต้นแห่งความรักของหญิง และความรักที่เริ่มต้นจากความสงสารนั้น ยากนักที่จะสลัดได้ เหมือนความตายซึ่งเริ่มป่วยเพราะชรา ยากนักที่จะเยียวยาให้กลับฟื้นคืนสู่สภาพเดิมได้นะครับ ข้าพเจ้าต้องการให้ความรักของข้าพเจ้าเกิด และพัฒนาการเช่นนี้แหละครับ

วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

แม่อยู่ไหน

เมื่อยามย่ำสนธยา ท้องฟ้าด้านตะวันตกสีแดงฉาน เธอจะได้ยินเสียงผู้คนเรียกขานดังเจื้อยแจ้ว ลูกเล็กเด็กแดงร้องระงมดังสนั่น หมู่ปักษาปักษีโบยบินสู่รวงรังเป็นหมู่ๆ ส่วนข้าพเจ้าผู้อาภัพ พอคิดถึงตัวเอง ไม่รู้จะเรียกร้องหาใคร มีแต่หนังสือและความเงียบเหงาเป็นเพื่อน เมื่อยามดึกดื่นเสียงฝนตกรินหลั่ง น้ำตาของข้าพเจ้าก็พลอยหลั่งตามด้วย ขณะนี้เองข้าพเจ้าคิดถึงบิดา มารดาเป็นที่สุด ทั้งๆ ที่เกิดมาไม่เคยได้รับความอบอุ่นจากบิดาและมารดาเลย ยังไม่ได้สัมผัสกับความอบอุ่นแห่งความรักระหว่างพ่อ–แม่ –ลูกเลย มารดาไม่เคยเล่าเรื่องในหนหลังให้ข้าพเจ้าทราบเลย ข้าพเจ้าทราบว่า เด็กทุกคนเกิดมาต้องมีพ่อมีแม่ แต่พ่อแม่ข้าพเจ้าอยู่ที่ไหน เป็นอย่างไร ในเวลานี้ ข้าพเจ้าอยากมีพ่อมีแม่ แม้ว่าพ่อแม่จะเป็นคนยากไร้ หรือรูปร่างอัปลักษณ์สักปานใด แต่ขอให้เป็นพ่อแม่ที่ให้ความอบอุ่นแก่ฉันเท่านั้นก็พอแล้ว…

วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ชีวิตที่ถูกหลอก

ชีวิตเจ้า ซึ่งเป็นชีวิตที่คนทั้งหลายมองเห็นเป็นความงดงาม สวยหรู แต่จะมีใครบ้างเล่าเคยนึกเห็นใจว่า มีความอึดอัดลำบากประการใด ชีวิตเจ้าและชีวิตพระเป็นชีวิตที่น่าสงสารพอๆ กัน คือถูกหลอก ถูกชักใย ถูกเยินยอปอปั้น ถูกมัดให้อยู่ในกรอบแห่งประเพณีรีตรองต่างๆ ที่ข้าราชบริพารและคนทั้งหลายเสกสรรปั้นแต่งขึ้น เมื่อเกิดมาเป็นเจ้า แม้จะมีเลือดมีเนื้อ มีความรู้สึกเหมือนคนทั้งหลาย ก็จะทำอย่างคนทั้งหลายไม่ได้ เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาก็พินอบพิเทาอ่อนน้อม ยกยอ สรรเสริญ เมื่อลับหน้าเขาก็แสดงอาการอีกอย่างหนึ่งก็มี
คราวนี้หันมามองชีวิตพระ ซึ่งศาสนิกเคารพนพนอบ พูดจายกย่อง ยำเกรงเหมือนหนึ่งว่าชีวิตพระเป็นชีวิตที่ประเสริฐแท้จริง แต่พอลับหลังก็พอกันค่อนขอดนินทา เยาะเย้ย เปรียบเปรย ถากถางด้วยถ้อยคำซึ่งแล้วแต่จะสรรหามาพูด ทำไมหนอ??มนุษย์พวกนี้ จึงนิยมทำตนเป็นคนไหว้หน้าหลังหรอกถึงป่านนี้ แต่ก็ช่างเถอะ!!เรื่องของโลกเป็นอย่างนี้ กระแสโลกเป็นกระแสร้อน ชีวิตนี้ไหลวนอยู่ในกระแสธารสองสาย สายหนึ่งเป็นกระแสน้ำเย็น สายหนึ่งเป็นกระแสน้ำร้อน ใครหมุนตัวเข้าไปในกระแสน้ำร้อนก็ร้อนตัวเอง ใครหมุนตัวเข้าไปในกระแสน้ำเย็นก็เย็นกายเอง กระแสธรรมเป็นกระแสเย็น ดวงใจนี้เป็นที่ไหลผ่านแห่งกระแสทั้งสอง ผู้ใดยอมให้กระแสโลกไหลผ่านดวงใจมาก ผู้นั้นย่อมได้รับความร้อนมาก ผู้ใดยอมให้กระแสธรรมไหลผ่านดวงใจมาก ผู้นั้นก็มีความชุ่มเย็นมากเท่านั้น โปรดคิดและมองในมุมที่จะทำให้ท่านมีความสุข ความเพลิดเพลินนะครับตัวเอง…

วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

อย่าดูหมิ่นคน

คนยากจน มีเลือดเนื้อ มีความรู้สึก มีความกลัวภัย และมีสัญชาตญาณในการสืบพันธ์เช่นเดียวกันกับคนมั่งมี ในเนื้อแท้ของคนไม่มีอะไรแตกต่างกัน จะต่างกันก็เพียงเปลือกนอกเท่านั้น ทำไมคนบางคนจึงมองข้างความจริงเรื่องนี้ไปเสีย แล้วมาตั้งหน้าตั้งตารังเกียจเดียดฉันท์กันว่า นั่นเป็นเจ้าเป็นนาย เป็นไพร่เป็นบ่าวกันทำไมนักหนาหนอ คนจนก็มีหัวใจเหมือนกันแหละนะ อย่าได้ดูถูกคนเลยครับ โปรดคิดถึงวันที่โดนเผามอดไหม้แล้ว ข้าพเจ้าเห็นไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย ยังไงคนจนก็คนคือกันนะครับ โปรดเข้าใจ…

วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เรียนรู้คู่คุณธรรม

คำว่า “การศึกษาที่สมบูรณ์”นั้น ข้าพเจ้ามิได้หมายถึง การศึกษาสูงเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึง ความรู้และความประพฤติดี ซึ่งต้องควบคู่กันไป คนที่มีความรู้ดี ความรู้สูง แต่ขาดความประพฤติดี ก็เหมือนไม้ที่สูงแต่หาใบมิได้ ไม่ร่มเย็น ให้ความสุขแก่ใครไม่ได้ ส่วนผู้ที่มีความประพฤติดี แต่ขาดความรู้ ย่อมเป็นเหมือนไม้ที่ใบมาก แต่ต้นเล็กเกินไป เตี้ยเกินไป พอคุ้มครองรักษาตัวเองได้ แต่เป็นที่พึ่งอาศัยของคนเดินผ่านมาผ่านไป หรือคนมีความทุกข์ที่เกิดจากความร้อนไม่ได้เช่นเดียวกัน แล้วอย่างนี้เธอจะเป็นคนแบบไหนละ…

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

อย่าลืมกำพืดเดิมนะ

วันนี้ข้าพเจ้าดูละคนเรื่อง ซือกงเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ พระราชาเห็นซือกงกินมันที่หมกในดินเลยถามว่า เป็นคนใหญ่คนโตแล้วทำไมต้องกินของพวกนี้ด้วย ไม่มีค่า ไม่น่ากิน เป็นของคนจนเขากินกัน และซือกงก็ตอบว่า ที่ฉันกิน เพราะฉันกินเพื่อจะได้ไม่ลืมตัว ว่าฉันเป็นคนจนมาก่อน เวลาจะทำอะไร จะได้ไม่ดูถูกคนจน ดูถูกชาวนา ทำตามความยุติธรรม เคารพสิทธิเสรีภาพของความเป็นมนุษย์ของคนทุกคน บางทีคนจน อาจดูข้างนอกหยาบกร้าน สกปรก แต่ข้างใน ซึ่งคือจิตใจของเขาดูแล้วอาจเป็นคนประเสริฐที่สุด เป็นเหมือนดังแม่พระของลูกๆ ของเขาเอง เหมือนเผือก มัน เผา ดูข้างนอกแล้วสกปรกไม่น่ากิน แต่ถ้าปลอกเปลือกออกแล้ว จะเห็นว่า สีทองเหลืองอร่าง หอม ชวนรับประทานมากนักหนา ฉะนั้นอย่าได้ดูถูกคนเลย อย่าลืมตัวเลยว่า ความสุขที่เราได้อยู่ในปัจจุบันก็เพราะอาศัยชาวบ้าน มีชื่อเสียงโด่งดังได้เพราะพวกเขา ดังนั้นควรจะรู้สึกถึงบุญคุณของพวกเขาบ้างอย่างได้หยิ่งนักนะครับ…

วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เสียใจจริง ๆ

ข้าพเจ้ายืนมองเธอจากไปอย่างช้าๆ จนสุดสายตา รู้สึกเหมือนใจจะหลุดลอยไปด้วย พร้อมๆ กันนั้นน้ำตาก็ไหลพรากลงอาบแก้ม ใครเล่าจะทราบซึ้งถึงความรู้สึกของข้าพเจ้ายิ่งกว่าตัวข้าพเจ้าเองได้ ตั้งแต่ลืมตาดูโลกมา ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ข้าพเจ้าได้รับรสแห่งการพลัดพรากจากคนอันเป็นที่รัก ดวงใจของข้าพเจ้ายังบอบบางเกินที่จะไปทนต่อการกระแทกกระทั้น แห่งความทุกข์ทรมานอันมักจะมีอยู่เสมอในชีวิตมนุษย์ผู้กระเสือกกระสนอยู่ในทะเลแห่งความหวัง ความต้องการ ความปรารถนาในอารมณ์อันเป็นที่รัก และความเป็นห่วงคนรัก และตนเอง..

วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

การทรมาน คือ การจากกัน

ภาพอันเป็นที่ตั้งแห่งความสะเทือนใจอย่างยิ่ง ก็คือ ภาพหนุ่มสาวที่เพิ่งรักกันใหม่ ๆ แล้วมีเรื่องที่คนรักจะต้องจากไปจากเมือง เพราะความจำเป็น เธอผู้อยู่เบื้องหลังก็คิดไปต่างๆ นาๆ ตามประสาแห่งสตรีซึ่งมักจะคาดเหตุการณ์ไปในทางร้าย จึงเฝ้าวอนสั่งเสียชายอันเป็นที่รักแห่งตนด้วยความอาลัยสุดหักห้าม ส่วนชายเล่าเมื่อใกล้เวลาขบวนรักจะออกก็รู้สึกเหมือนดวงใจของตนจะหล่นอยู่ ณ ที่นั้นนั่นเอง..

วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ใครน่ารักกว่าใคร

ความรักเป็นสิ่งสูงส่ง สวยงามมีความนิ่มนวล ละเมียดละไมแทรกซึมอยู่อย่างประหลาด การแสดงอะไรออกมาตามความรู้สึกของหัวใจ เป็นความผิดจนถึงต้องได้รับการดูหมิ่นเชียวหรือ ถ้าอย่างนั้นการมีเล่ห์กลมารยา การหลอกลวง ก็เป็นสิ่งที่ควรยกย่อง หรือเชิดชูกระมั่ง หามิได้ ทุกคนชอบความสนิทใจ ความสุจริตใจ เมื่อเธอได้กระทำอะไรลงด้วยความสุจริตใจ และสิ่งนั้นไม่ก่อความเดือดร้อนให้ใคร เธอจะมีความผิดอะไร ดันควรแก่การตำหนิเทียวหรือครับผม…

วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ใครโง่กว่าใคร

มีบ่อยครั้งเหลือเกินในโลกอันยุ่งเหยิงนี้ ที่สตรีหยิบยื่นหัวใจอันมีค่ายิ่งของเธอเพียงเพื่อแลกกับอารมณ์ของชาย โดยที่เธอไม่รู้ว่านั่นเป็นเพียงอารมณ์ของเขา มิใช่หัวใจหรือความรู้สึกที่แท้จริงอะไรเลย ยิ่งถ้าเธอเคราะห์ร้ายไปสมาคมด้วยชาย ซึ่งมีลิ้นอันราดรดฉาบทาไว้ด้วยน้ำตาลด้วยแล้ว เธอจะลิ้มแต่ความหวานซึ่งกระเซ็นออกมาจากปลายลิ้นของเขามิเว้นแต่ละวัน แต่ทั้งนี้มิได้หมายความว่าชายที่พูดหวานหูนั้น จะปราศจากความจริงใจและความซื่อสัตย์เสียทุกคนไป บางทีเธอก็รู้ว่านั้นเป็นอารมณ์ของเขามิใช่หัวใจเขา แต่เธอก็ยินยอมทั้ง ๆ ที่รู้นั่นเอง อะไรทำให้เธอยินยอม เป็นเรื่องที่เธอตอบไม่ได้ ตอบไม่ได้ว่าเพราะอะไร มีอยู่เหมือนกันมิใช่หรือที่สตรียินยอมมอบกายให้โดยที่ใจไม่ยินยอม สตรีทำได้ในทำนองเดียวกันบางคราวใจเธอก็ยินยอม แต่เธอไม่ยอมมอบกายให้
ความจริงข้อหนึ่งที่พวกผู้ชายมักจะมองข้ามไปเสีย คือสตรีนั้นมีความฉลาดในเล่ห์กลของมนุษย์ และเหลี่ยมคูของผู้ชาย แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าชายเธอมักแกล้งทำเป็นไม่รู้ พวกผู้ชายจึงเข้าใจว่าเธอโง่ ความจริงในเรื่องทำนองผู้ชายโง่กว่าผู้หญิงมากนัก การที่เข้าใจว่าผู้หญิงโง่นั้น ทำให้ผู้ชายรุกล้ำเข้าไปในวงชีวิตของเธออย่างทะนง และห้าวหาญ สตรีส่วนใหญ่มีสายเลือดมด มีธาตุสำลีอยู่มาก ในที่สุดเธอก็ยอม ยอมดื่มน้ำตาล และลอยคว้างเหมือสำลีที่ถูกลมแรงพัด
ความจริงอีกข้อหนึ่งซึ่งสตรีได้ก้าวหน้าไปไกลกว่าชายมาก คือ มีความรู้สึกว่า มีบางสิ่งบางอย่างในโลกนี้ที่ดีกว่า สดสวยกว่าความใคร่ทางร่างกาย ดังนั้นความรักของเธอจึงละเมียดละมัย อ่อนนุ่มและสูงส่งเหนือความใคร่ทางเนื้อหนัง ผิดกับความรักของชายซึ่งมักจะมีแต่ความเร่าร้อนและความปรารถนา มีความต้องการความสุขทางความใคร่ที่ฉาบฉวย ความปรารถนาของเขาเหมือนเด็กที่ต้องการกินข้าวต้มที่ยังร้อน ซึ่งเพิ่งยกลงจากเตาใหม่ ๆ ไม่ค่อยรู้จักรั้งรอเวลาอันเหมาะสม ผู้ชายจึงมักลิ้นพอง เจ็บปวด เพราะเรื่องทำนองนี้อยู่เนือง ๆ และในที่สุดผู้หญิงก็ต้องยอม ยอมเหมือนมารดาที่มีความกรุณา ไม่อาจทนต่อการรบเร้าเง้างอของลูกอีกต่อไป เมื่อเด็กน้อยได้กินข้าวต้มสมอยากแล้ว ก็ทิ้งชามจานไว้ให้เป็นภาระของมารดา แล้วออกวิ่งเล่นกับเพื่อนฝูงอย่างสนุกสนานเพลิดเพลินโดยมิต้องคำนึงว่า มารดาจะต้องรับผิดชอบอะไรบ้างและเหน็ดเหนื่อยเพียงใด
ผู้ชายส่วนใหญ่เป็นเพศที่ค่อนข้างเห็นแก่ตัวในเรื่องนี้ เขากินสบาย นอนสบาย เขามักจะคำนึงถึงและรู้จักแต่ความสุขสำราญแห่งตน ไม่ค่อยนำพาต่อหน้าที่หรือความรับผิดชอบร่วมกัน เขาเกิดมาเป็นชาย เขาภาคภูมิใจในความเป็นชายของเขา นอกจากนี้สิ่งแวดล้อมทั้งทางร่างกาย และสังคมยังเปิดโอกาสให้เขาใช้ความเป็นผู้ชายอย่างเต็มที่อีกด้วย ดังนั้น จึงไม่ต้องสงสัยเลยที่ผู้ชายบางคนใช้สิทธิเสรีภาพแห่งความเป็นชายเสียจนเกือบไม่เหลือ ความเป็นคน อยู่ในเรือนร่างและจิตใจของเขานะครับ…

วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ค่าของสตรี

คุณค่าของสตรี มิได้อยู่ที่ความมีจริต มารยา จนน่าเบื่อหน่ายเลย การพูดจาตามประสาซื่อสัตย์ และความสุจริตใจต่างหากเล่าเป็นเสน่ห์ในตัวคุณ อนึ่งเล่า คุณค่าของคนนั้น ข้าพเจ้าเห็นว่า ควรจะวัดกันตรงที่น้ำใจ เราอาจจะทราบอัธยาศัยของมิตรที่มีความห่วงใย กังวล เอาธุระของมิตรเสมอด้วยธุระของตน เมื่อเป็นดังนี้ การที่เธอพูดจาประสาซื่อ มีความสุจริตใจ มีความห่วงใย กังวลในตัวข้าพเจ้า ย่อมทำให้ข้าพเจ้าเห็นว่า เธอเป็นผู้มีคุณค่าและคุณสมบัติพอที่จะเป็นแม่ที่ดีของลูกได้ในอนาคตแน่แหละ …

วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

โปรดแยกแยะ…

ในชีวิตของข้าพเจ้านี้ ต้องการคนที่จะมาเป็นหุ้นส่วนของชีวิต เป็นแม่ของลูกอย่างดี เพราะข้าพเจ้านั้นเข้าใจอยู่แล้วว่าผู้หญิงนั้นมีหน้าที่มาก เมื่อลูกอยู่ในท้องต้องทะนุบำรุงครรภ์ของตัวอย่างสุดถนอมหาอะไรเปรียบมิได้ เมื่อลูกคลอดแล้วก็ระวังคุ้มครองรักษาและเลี้ยงดู รักยิ่งกว่าตนเอง ผู้หญิงต้องทำหน้าที่นี้อย่างดีที่สุด ต้องเป็นทั้งแม่ของลูก และเป็นเมียของพ่อ ในเวลาเดียวกัน แม่ต้องทำหน้าที่เมียที่ดีด้วยและเป็นแม่ที่ดีของลูกด้วย ไม่ใช่ทำหน้าที่แม่อย่างเดียวเท่านั้น จึงพยายามหาอยู่ในปัจจุบันนี้ไงละครับผม…

วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

สื่อด้วยใจ

น้องหญิงเอย..จะมีสมณะรูปใดออกปากขอบิณฑบาตจากชาวเมืองชาวบ้าน ชาวนิคมบ้างแม้ว่าท่านปรารถนาก้อนข้าว เพื่อยังชีพอยู่ท่านก็หุบปากเสียสนิท ชาวเมือง ชาวบ้านชาวนิคม รู้อาการแห่งท่านแล้ว จึงพากันถวายอาหาร อันควรแก่สมณบริโภคน้องหญิง..เจ้าก็เช่นกัน เป็นเหมือนสมณะผู้สำรวมและเคร่งขรึมรูปนั้น ข้าพเจ้ารู้ดอกว่า เจ้านะมีหัวใจรักข้าพเจ้าอยู่มิใช่น้อย แต่เจ้าปกปิดบังไว้ เพราะความละอายประจำเพศของกุลสตรี ถ้าเพียงเท่านี้ข้าพเจ้ามิอาจรู้ให้ซึ้งได้ ต่อไปภายหน้าข้าพเจ้าจะปกครอง พาครอบครัวและดำเนินชีวิตไปสู่จุดหมายได้อย่างไรนะครับผม…

วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ครูสอนรัก

เนื่องด้วยความรักของข้าพเจ้าอยู่ที่คุณ ความรักสอนให้คนเอาใจใส่ สอนให้เป็นห่วงเป็นใยคนที่ตนรักความน่ารักของคุณเองสอนให้ข้าพเจ้ารักเมื่อเป็นดังนี้ คุณจะปฏิเสธหรือว่า คุณมิได้สอนความรักฉัน น้องหญิงเอย…ถ้าผู้พิพากษาคือ คุณคุกคือ อ้อมแขนอันอ่อนละมุนของคุณโทษที่ตัดสิน คือการจองจำตลอดชีวิต นักโทษแห่งความรัก คือ ฉันคนนี้ ก็ยินดีรักคำพิพากษาโดยไม่เกรงกลัวอะไรเลยแหละครับผม…

วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

สตรี คือ ศัตรู จริงหรือ

หญิงสาวหรือจะเอ่ยคำว่า “รัก” คำว่า “รัก” ของสตรีนั้นมีราคาแพงมาก เธอตีราคาคำนี้เสมอด้วยชีวิตและความหวังทั้งหมด แต่ก็มีอยู่บ้างเหมือนกันที่สตรีใจโลเล มีความรักไม่แน่นอน เอาแต่ใจตน มีความคิดสั้น แสวงหาแต่ความสุขอันฉาบฉวย ไม่มีรากฐานอะไรเลย
ถึงแม้ข้าพเจ้ามีรัก แต่ข้าพเจ้ารู้จักรัก รู้จักเรียน จริงอยู่สตรีอาจจะเป็นศัตรูของการศึกษาได้ ถ้าชายหนุ่มหมกมุ่นมากเกินไป แต่ถ้าถือเอาคุณเป็นกำลังใจให้บากบั่นได้ พยายามก้าวไปข้างหน้า อาจจะได้แรงบวกเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเพื่อตัวเราเอง และอีกส่วนหนึ่งเพื่อคนที่ข้าพเจ้ารัก ความรู้สึกดังกล่าวก็เป็นประโยชน์แก่ชีวิต การงานและการศึกษาอยู่มิใช่น้อย คุณว่าจริงหรือเปล่า?…

วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ใครผิด ใครถูก

ความจริงแล้วผู้ชายส่วนใหญ่มักจะมีนิสัยคล้ายคลึงกัน คือ มักจะล่วงเกินสุภาพสตรีเล็กๆ น้อยๆ ก่อนแล้วจึงขออนุญาตภายหลัง ทั้งนี้จะปรับเอาว่าเป็นความผิดของชายโดยส่วนเดียวก็หาไม่ เพราะหญิงส่วนใหญ่เป็นผู้ฝึกให้ชายเป็นอย่างนั้นเอง ถ้าเขาขออนุญาตก่อน หญิงมักจะไม่ยินยอม ไม่อนุญาตตามนิสัยรักนวลสงวนตัวของเธอ แต่เมื่อฝ่ายชายล่วงเกินเล็กๆ น้อยๆ ไปแล้ว เช่น จับมือถือแขนไปแล้ว จึงขออนุญาต เธอก็มักจะถือว่า เรื่องมันล่วงเลยไปแล้ว การที่เขายังอุตส่าห์ขออนุญาตก็เป็นความดีส่วนหนึ่ง ซึ่งในกรณีนี้ เธอมักจะยินยอมอนุญาตเสมอ สรุปแล้วก็ไม่มีใครถูกใครผิดเน๊าะ..

วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

แค่นี้ก็พอแล้ว

สายฝนที่หยาดหยดจากฟากฟ้า เพื่อชโลมพื้นแผ่นดินให้ชุ่มฉ่ำ ต้นข้าว หมู่แมกไม้พฤกษาที่รอคอยได้ขจีเขียว ปู ปลา มีน้ำใหม่ให้แหวกว่ายอย่างงสนุกสนาน สัตว์น้อยใหญ่ได้รับความเย็นกายเย็นใจ เฉกเช่น สายหยาดหยดแห่งฝน คือ กำลังใจ จากคนที่คอยห่วงใย คอยถามไถ่ ห่วงหาอาทร เช่น คุณที่กำลังอ่านนี้ ได้หยาดหยาดเพื่อชโลมจิตใจของข้าพเจ้าให้ชุ่มฉ่ำ เย็น สบาย มีเรี่ยวแรงต่อสู้ ถึงแม้จะน้อยนิด แต่ก็มีคุณค่า ต่อชีวิตได้อีกนานหลายวัน เพราะการทรมาน คือ การรอคอย ต้นข้าวคอยฝน ..คนคอยคนรักจะมา…คนไข้คอยหมอ…ข้าพเจ้าชิรอ..กำลังใจจากคุณๆ อยู่นะ…

วันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

จริงหรือ?

อำนาจเป็นใหญ่ในโลก..ถูกแล้วอำนาจเป็นใหญ่ในโลกผู้มีอำนาจย่อมพูดเสียงดังได้เสมอ เมื่อผู้มีอำนาจพูดผู้ด้อยอำนาจก็ต้องฟังจะเต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ต้องฟังผู้มีอำนาจเมื่อไม่ใช้อำนาจแล้วเขาจะใช้อะไร บางคนใช้เงินเป็นอำนาจกดขี่ข่มเหงผู้มีเงินน้อย ซึ่งยอมตนเข้ามาพึ่งพาบารมี มนุษย์ประเภทนี้กระหึ่มครึมครางเสมอว่า "ฉันใช้เงินของฉัน ฉันไม่ได้ใช้คน” เขาจึงใช้คนอย่างไร้ความปราณีเพราะมั่นใจอยู่ว่าเขามิได้ใช้คนซึ่งมีเลือดเนื้อและชีวิตจิตใจ แต่เขาใช้เงินต่างหากเล่าส่วนสตรีมีความงามเป็นอำนาจบังคับขู่เข็ญให้มนุษย์ผู้ชายคอยสยบลงแทบเท้าของเธอเองเศรษฐีมีเงินเป็นอำนาจ ข้าราชการมีตำแหน่งเป็นอำนาจแต่อย่างไรก็ตาม ข้อแตกต่างมีอยู่ว่าใครจะใช้อำนาจได้ถูกต้องหรือใช้โดยไม่ถูกต้องเท่านั้นเองและสิ่งเหล่านี้ก็จะกลับมาหาเขาเหมือนเดิม มาทำลายหรือส่งเสริมอำนาจของเขาให้ดีขึ้น หรือสูญสิ้นไปก็ขึ้นอยู่กับตัวเขาเท่านั้น

วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ใครเล่าจะมาจริงใจเท่าตัวเราเอง

เมื่อโชคร้ายย่างกรายเข้ามาในชีวิตเรา อะไรๆ ก็ดูเหมือนจะขัดข้องไปหมด คนที่เคยรักก็คลายรัก คนที่เคยภักดีก็หนีห่าง เจ้าหนี้ก็ย่างกรายเข้ามาอย่างไร้ปราณี มนุษย์ส่วนมากมุ่งมองแต่กระทำในสิ่งอันจะเป็นประโยชน์แก่ตนในปัจจุบัน และเล็งผลเลิศในอนาคต กาลใดไร้เสียซึ่งผลประโยชน์แก่ตนดังกล่าว แม้จะเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมเพียงไร ก็จะมีใครเล่าสมัครใจทำ ไม่มีเรื่องอะไรที่ทำให้มนุษย์ขัดใจกัน จองเวร เข่นฆ่า ฟัน ทำลายกันไปยิ่งกว่าเรื่องผลประโยชน์ที่ขัดกันหรอกครับผม…

วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

สุขแบบทรมาน

ภายในห้องสี่เหลี่ยมของมุมหนึ่งในเมืองกรุง ซึ่งเรียกว่าศรีวิไล แสงไฟสลัวบ้าง สว่างบ้าง จากเพดานสีขาดอันบริสุทธิ์ สะอาด ไร้ลวดลาย มีสิ่งประดับบ้างเล็กน้อย ตามความเหมาะสม ความงาม และรสนิยมของเจ้าของห้อง แสงสว่างได้สาดส่องให้เห็นใบหน้าของบุคคลสี่คน ที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวล ความคร่ำเครียด ความคิดที่จะทำงานให้เสร็จ กับเกมที่บอกว่า คลายเครียด แต่พวกเขาหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ยิ่งดูกลับยิ่งคร่ำเครียดขึ้น จนแสดงออกมาทางใบหน้าอย่างไม่รู้สึกตัว เนื่องจากนั่งมาตั้งแต่เทียงวันจนถึงเที่ยงคืน ซึ่งสีหน้าก็ได้เปลี่ยนไปบ้าง อย่างไรก็ตาม แม้ใบหน้าจะดูจืดไปบ้าง แต่ก็ยังมีแววแห่งความงามเหลืออยู่มิใช่น้อย นานๆ ครั้งจะเห็นแต่ละคนทอดสายตามองหน้ากันและกันเพื่อให้กำลังใจ แต่ข้าพเจ้าเห็นแล้ว สบตาแล้ว ถอนหายใจลึก ๆ มีอาการตรองอย่างลึกซึ้งถึงคำที่ว่า “คนรักกัน ย่อมรู้ใจคนที่จะรักได้ โดยไม่จำเป็นต้องบอก เพราะคนรักกันเรียนรู้ ที่จะเข้าใจกันอย่างเงียบๆ และง่ายๆ แค่สายตาที่มองสบกัน เท่านี้ก็เพียงพอ” คืนนี้ แม้จะเป็นเกมที่ทรมาน แต่ก็เบิกบานในทางจิตใจ จะสุขจะทุกข์ยังไงก็ขอให้ มีใครสักคนที่เข้าใจเราคอยเคียงข้างเท่านี้ก็พอเพียงแล้ว…คุณว่าจริงไหม?

วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ไม่เห็นโลกศพไม่หลั่งน้ำตา

ท่ามกลางโลกกำลังริบหรี่ สังคมกำลังแย่ แสงเทียนกำลังจะดับ ข้าวยากหมากแพง เงินทองหายาก โจรผู้ร้ายซุกชุม เหล่ามนุษย์ที่เรียกตัวเองว่า “สัตว์ประเสริฐ” ก็หาได้รู้สึกตัวไม่ ยังคงแก่งแย่งแข่งดีกัน แยกสีแยกขั่ว แยกพรรคแยกฝ่าย โยนความผิดให้แก่กันและกัน เบียดเบียน เข่นฆ่าจองเวร ข่มแหงรังแกกันและกันอยู่อีก แทนที่จะหันหน้าเข้าหากัน สามัคคีปรองดองกัน เพื่อให้เกิดพลังอันยิ่งใหญ่ฟันฝ่าอุปสรรค ต่อสู้กับความวิกฤติเหล่านี้ แสวงหาแสงสว่างเตรียมเทียน ฟืน ไฟ ก่อนที่ความมืดจะย่างกรายเข้ามาปกคลุมมากไปกว่านี้ หรือว่าพวกเขาอยากเห็นความวินาศวอดวายของตัวเองแบบไม่มีทางแก้ไขอย่างนั้นดอกหรือ…

วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

คุณสมบัติ

ผู้หญิงต้องมีความละอายเป็นนิสัย รู้จักรักนวลสงวนตัว จึงจะมีค่า เหมือนโบราณว่า “ผู้ครองเรือน (คฤหัสถ์) เกียจคร้านไม่ดี สมณะไม่สำรวมไม่ดี ผู้ใหญ่ทำการงานโดยไม่ใคร่ครวญอย่างรอบคอบไม่ดี สตรีไม่มีความละอายไม่ดี โสเภณีมีแต่ความขี้อายก็ไม่ดี” นี่คือคุณสมบัติ หรือธรรมชาติของความจริงที่เราจะว่าให้เขาไม่ได้ เมื่อเขาแสดงอาการเหล่านี้ออกมานะครับ…

วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ต้องเป็นเองถึงจะเข้าใจ

ลูกๆ มักจะไม่ค่อยรู้ว่า ความห่วงใยต่อพวกเขานั้นก่อความทุกข์ทรมานแก่พ่อแม่เพียงไร จะมีอะไรอีกเล่าในโลกนี้ ที่พ่อแม่จะรักและห่วงใยเท่ากับลูกๆ มนุษย์เรามีนิสัยรักและถนอมสิ่งที่สร้างขึ้นเอง ทำเอง คอยดูความเจริญเติบโตมาแต่เริ่มต้น ลูกเป็นสมบัติชั้นเยี่ยมที่พ่อแม่ได้สร้างขึ้น ท่านจึงรักและหวงแหนเท่าชีวิต หรือยิ่งกว่า แต่ลูกหาได้รู้ความจริงข้อนี้อย่างแจ่มแจ้งไม่ จนกว่าสักวันหนึ่งที่พวกเขาต้องอยู่ในภาวะเป็นพ่อ เป็นแม่เอง เมื่อนั้นแหละ พวกเขาจึงได้รับความรู้โดยตรง (Direct Experience) และเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งว่า ความรัก ความห่วงใย ของบิดามารดาเป็นอย่างไร ท่านผู้อ่านว่าอย่างผมไหมหนอ…?…

วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ยุคประหยัด

ยุคประหยัดนี้ แม้แต่หัวใจของเรา เราก็ต้องประหยัด จะมอบให้ใครง่าย ๆ หรือแจกจ่ายอย่างฟุ่มเฟือยไม่ได้ หัวใจก็มีเวลาหมดเหมือนกัน ข้าพเจ้าหมายความว่า มันหมดคุณภาพ (Quality) และประสิทธิภาพ ที่เป็นหัวใจเข้มแข็ง ดีงามอีกต่อไป เพราะข้าพเจ้ามองว่า จิตใจคนเราก็มีคุณภาพคล้ายกับกระดาษทิชซู่ หรือกระดาษซับ ถ้ามันซับเอาความผิดหวัง ความเสียใจไว้มาก ๆ มันก็ทนไม่ไหว หมดคุณภาพที่จะซับอีกต่อไป การหวังแล้วผิดหวัง หวังแล้วผิดหวัง ต่อไปเรื่อย ๆ รับรองหัวใจก็ทนต่อความบอบซ้ำไม่ไหว ไม่งั้นคงไม่มีการฆ่าตัวตายเพราะความเจ็บซ้ำหรอกนะครับ ก็เนื่องจากสาเหตุที่คุณไม่ประหยัดนี่เองครับผม…

วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ต่างคนต่างเหตุผล

มีนักโทษอุกฉกรรจ์ในเรือนจำ อยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่รู้จักว่า “ตัวเองผิด” อาชญากรเหล่านี้เป็นมนุษย์ เช่นเดียวกับคุณและผม ดังนั้น เขาจึงมีเหตุผลของตนเอง เพื่ออธิบายพฤติกรรมของเขา เขาจะเล่าให้คุณฟังถึงเหตุผล ที่ต้องงัดตู้เซฟ เหตุผลที่ต้องข่มขืนแล้วฆ่า เหตุผลที่ต้องเหนี่ยวไกปืนอย่างไม่ยั้งคิด คนเหล่านี้พยายามสร้างเหตุผลที่จะอธิบายให้คุณฟัง แม้ว่าเหตุผลนั้นจะไม่เข้าท่านักก็จริง หากจะถามว่า เขาอธิบายเพื่ออะไร? คำตอบที่ได้คงจะเป็น เพื่อให้ใครต่อใคร รวมถึงตัวเขาด้วยเห็นใจในการกระทำของเขา อันเป็นศัตรูต่อความสงบของสังคมนั้นนะครับ…ยังไงต่างคนต่างคิด เอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง สันติภาพ ภราดรภาพคงจะเกิดขึ้นในไม่ช้านะครับผม…

วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

สิ้นสุดกันที…

สายน้ำไหลไปไม่เคยหวนกลับ ดอกไม้บานแล้วเหี่ยวเฉา ไร้ความงาม ชีวิตห่างจากฝั่งนี้ย่อมใกล้ฝั่งโน้น ห่างจากจุดเริ่มต้นย่อมใกล้จุดสิ้นสุด ห่างจากความดี ย่อมใกล้ความชั่ว ห่างจากความเกิดย่อมใกล้ความตาย ห่างจากความสุขย่อมใกล้ความโศกเศร้า เสียใจ มันสายไปเสียแล้ว สำหรับจิตใจฉันที่จะคลายความซาด้าน มาหลงรักเธอเหมือนเดิม พอกันทีชีวิตของเรา หยุดกันทีความใคร่ต่างๆ วันนี้ข้าพเจ้าชนะแล้ว ชนะแล้ว

วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

อำนาจอะไร

เพราะอำนาจอะไร ที่ทำให้คนบางคนต้องระลึกถึงใครคนหนึ่งอยู่มิเว้นว่าง มิใช่เพราะสายสัมพันธ์ทางใจ อันค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นทีละน้อย แล้วกระชับเกลียวของมันอย่างแน่นหนาหรอกหรือ ??? ที่ทำให้คนบางคนนั้นตกอยู่ในภาวะจำยอม…ยอมแบกภาระอันหนักและเหน็ดเหนื่อย ทั้งไม่รู้เบื้องปลายว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด…
เพราะอำนาจอะไร ? ที่ทำให้มารดาเคยหลั่งน้ำตาที่ระคนด้วยปีติสุข…..
เพราะอำนาจอะไร ? ที่ทำให้บิดายอมทิ้งขวดสุรา เลิกสูบบุหรี่ และกิริยาที่เสเพลต่าง….
เพราะอำนาจอะไร ? ที่ทำให้บุตรธิดามีธูปเทียน ดอกไม้ ในมือแล้วพลางคุกเข่าลงเบื้องหน้าบุพพการีทั้งหลาย….
เพราะอำนาจอะไร ? ที่ทำให้มิตรสหาย ซึ่งเรียกว่า “เพื่อนตาย” ยอมพลีชีพเพื่อเพื่อนของเขา….
เพราะอำนาจอะไร ? ที่ทำให้ชายผู้เพียบพร้อมด้วยเกียรติยศ ไม่เคยเกรงกลัวคำสั่งใคร แม้แต่อาญาสวรรค์ ผู้เพียบพร้อมด้วยลักษณะแห่งบุรุษผู้องอาจ ห้าวหาญ จึงยอมคุกเข่าเบื้องหน้าสตรีผู้อุดมด้วยนานาคุณลักษณะ….
เพราะอำนาจอะไร ? ที่ทำให้สตรีที่เคยผยองในศักดิ์ศรีของความเป็นลูกผู้หญิง ยากใครจะเอื้อมถึง ยอมทอดกายให้ชายคนหนึ่งเป็นเจ้าของตัวเองทั้งกายและใจ..
ถ้าไม่ใช่เพราะอำนาจแห่ง “ความดี” ของผู้คนเหล่านั้น ดังนั้น ท่านยังจะว่า “ทำดีไม่ได้ดีอีกอยู่ดอกหรือ” ครับผม…

วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ใครกันหนอ

เวลาดึกมากแล้ว พระจันทร์โคจรไปอยู่ทางขอบฟ้าด้านทิศตะวันตก เสียงไก่ขันเป็นครั้งแรกในราตรี ดังเจื้อยแจ้วปลิวมาตามสายลมเป็นระยะ ๆ เป็นเวลาที่มวลชนกำลังก้าวลงสู่นิทรารมย์อันสนิท แล้วใครหนอที่ยังนอนไม่หลับ เหมือนบุคคล ๕ คนเหล่านี้ คือ สตรีคิดถึงบุรุษ บุรุษคิดถึงสตรี พระราชาผู้มีพระราชกิจมากมาย พระภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนาผู้ประพฤติธรรม และโจรผู้แสวงหาช่องทางที่จะขโมยสิ่งของของคนอื่น ที่สำคัญ หนึ่งในนั้น คือ ข้ากำลังคิดถึงเจ้าอยู่นี่ไง

วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ประโยชน์ของใคร…

บุคคลเอาเครื่องดักปลาไว้ที่ปากทางน้ำ เขาทำเพื่อความทุกข์ ความพินาศ วอดวายของปลา หาใช่เพื่อประโยชน์เกื้อกูล หรือ ความสุขอะไรไม่ ฉันใด คนที่เกิดมาไม่รักษาของดีที่บรรพบุรุษสร้างมา และไม่สร้างสิ่งใหม่ ๆ ไว้ประดับโลก แถมยังชี้ทางให้คนเดินผิด เรียกว่า “มีความสุข บนความทุกข์ของคนอื่น” ก็ฉันนั้น เขาเกิดมาเพื่อดักเพื่อนมนุษย์ ให้ประสบความพินาศวอดวาย หาใช่เพื่อประโยชน์เกื้อกูล หรือความสุขอะไรไม่ ซึ่งข้าพเจ้าขอเรียกว่า “ผู้เกิดมาหนักแผ่นดิน” นะครับ…

วันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

มองต่างมุม ในมุมที่ต่างกัน

เด็กมองโลกอย่างร่าเริง แจ่มใจ เบิกบาน ผู้ใหญ่มองโลกอย่างระแวงระวัง ผู้สูงอายุและผู้มีธรรมะในจิตใจมองโลกอย่างปลงตกว่า มันเป็นเช่นนั้นเอง (ตถตา) จึงสามารถต้านทานต่อกระแสอันรุนแรงของโลกธรรม (ความมีลาภ ไม่มีลาภ มียศ ไม่มียศ นินทา สรรเสริญ สุข ทุกข์)ได้ โอ้..แล้วอภินันท์เอ๋ยตอนนี้เจ้ามองโลกอย่างไรหนอ ??…

วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เครื่องประดับ

ดอกบัว เป็นเครื่องประดับสระ ทำให้สระงามไม่ดูเว้งว้าง บัวทำให้สระ และน้ำในสระใสสะอาดสวยงาม ในโลกนี้ก็เช่นกัน ถ้าปราศจากสตรีที่สวยงาม อุดมด้วยคุณสมบัติ เช่นเจ้าเสียแล้ว โลกคงอ้างว้าง ว่างเปล่า ขาดเครื่องประดับอันสำคัญไปอนึ่ง บัวมีคุณภาพทำให้น้ำสะอาด สระใดไม่มีบัว มักจะมีน้ำขุ่นข้น ในทำนองเดียวกัน เจ้าผู้งาม ผู้เพียบพร้อมด้วยคุณธรรม ย่อมเป็นเครื่องประดับโลก ประดับหมู่บ้าน ประดับเรือน ทำความเข้มข้นและความแข็งแกร่งในจิตใจของบุรุษให้จางความเข้มลง ให้มีความสดชื่น แจ่มใส ย่อส่วนให้แคบเข้ามา อย่างใจของฉันกับเธอในตอนนี้ แม้จะอยู่ไกลกันแต่เราก็อยู่เคียงกันไงครับ…คิกๆๆๆ…

วันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2552

หลีกให้ห่างที่สุด

จุงกะเอ๋ย.... ในชีวิตนี้ ท่านจงพยายามหลีกเลี่ยงคนบ้ายศ มุ่งแต่จะสร้างความเป็นใหญ่ให้แก่ตนเอง โดยไม่คำนึงถึงศีลธรรม มนุษยธรรมของส่วนรวม หรือความเจ็บซ้ำของคนอื่น เพราะมนุษย์พวกนี้จะไม่เป็นมิตรที่จริงใจกับใครเลย ไม่มีความสุจริตใจในการคบค้าสมาคม ใครจะทำประโยชน์ให้มาสักเท่าไร แต่พอหมดกำลังที่จะทำประโยชน์ให้เพราะเหตุใดเหตุหนึ่ง หรือไม่มีประโยชน์อะไรแก่เขาอีกต่อไปแล้ว มนุษย์หรือคนพวกนี้ก็ทำลายได้ด้วยหน้าตาเฉย ดังนั้น ถ้าไม่พบ ไม่เจอจะเป็นการดี หรือจำเป็นต้องพบ ต้องเจอ ก็อย่าพึ่งพูดด้วย แต่ถ้าจำเป็นต้องพูดด้วยก็จงตั้งสติให้ดีนะ

วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ท่านประหยัดหรือยัง

“อาหารที่ดีที่สุด เป็นประโยชน์แก่ร่างกายที่สุด และให้กำลังวังชามากที่สุดนั้น คือ น้ำล้างชาม” ชาวญี่ปุ่นรับประทานอาหารแบบญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นคนยากจนหรือเศรษฐี พอกินข้าวหมดชามแล้ว เขาเอาน้ำเทลงไปในชาม กรอกน้ำล้างชามข้าว และก็ดื่มเข้าไป ไม่ทิ้งข้าวแม้แต่เม็ดเดียว หรือทิ้งอาหารอันใดแม้แต่เล็กน้อย ชาวฝรั่งเศสซึ่งโดยมากมีนิสัยประหยัด เขาสอนกันว่า “อาหารที่ดีที่สุด คือ เมื่อกินอะไรหมดแล้ว ก็เอาเศษขนมปังเช็ดจานรับประทาน” ผู้ที่เคยเป็นนักเรียนในประเทศฝรั่งเศส และถูกส่งไปตามบ้าน ตามครอบครัว จะถูกสอนให้ทำอย่างนี้ ซึ่งเป็นการประหยัดที่ไม่ยอมให้เสียเปล่า แม้แต่เศษขนมปัง หรือน้ำอาหารที่ติดจาน เป็นการประหยัดขนมปังและอาหาร ประหยัดตลอดไปถึงน้ำล้างจาน เพราะช่วยให้ล้างง่ายมากอีกด้วย นอกจากนี้ คนชาวบ้านของญี่ปุ่นจะไม่ทุบไข่อย่างที่เราทุบกัน ถ้าเป็นไข่ดิบ ก็ทุบให้แตกเพียงเล็กน้อยที่ตรงหัวมุม ค่อยๆ เทเอาไข่ออก แล้วส่งเปลือกไข่ซึ่งอยู่ในสภาพดีไปขายยังโรงงานทำตุ๊กตา แต่ถ้าเป็นไข่ต้ม ไม่สามารถทำได้เหมือนไข่ดิบ ก็พยายามที่จะรักษาเปลือกไข่ไว้ทำเครื่องรัก คือ มีวีลงรักและเอาเปลือกไข่เรียงข้างหน้าเป็นลายสาย ทำให้เป็นสิ้นค้าที่มีคุณค่าอีกเป็นอย่างมาก แม้แต่เปลือกไข่ก็ไม่เสียเปล่านะท่าน แล้วท่านละในยุคข้าวยากหมากแพง ท่านประหยัดหรือยัง?

วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ทำไมต้องเป็นกำลังใจ

ศึกภายนอกนั้น เขาสู้กันด้วยกำลัง อาวุธ เสบียง กำลังพล แต่ศึกแห่งชีวิตนั้น ถ้ากำลังใจยังมีอยู่ ก็ยังมีหวังชนะ เราจะแพ้ก็ต่อเมื่อหมดกำลังใจ บางสิ่งที่ดูเหมือนร้ายในเบื้องต้น อาจดีในเบื้องปลาย ขออย่าได้กลัวความเปลี่ยนแปลงของชีวิต เราต้องนึกมั่นใจอยู่เสมอว่า เราจะต้องเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ใจของเราจะไม่เดือดร้อย และเป็นการรักษากำลังใจอย่างดีที่สุด

วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2552

อย่าดูถูกคน

การที่คนอื่นเขามีการศึกษาน้อยกว่า อาจเป็นเพราะเขามีโอกาสน้อยกว่า แต่มันสมอง และความเฉลียวฉลาดเขาอาจไม่ด้อยกว่าเราเลข คนที่มียศน้อยกว่าเรา อาจเป็นเพราะเขาเข้าทำงานที่หลังเรา หากเริ่มต้นพร้อมๆ กัน เขาอาจก้าวหน้ากว่าเราก็เป็นได้ คนที่มีตำแหน่งฐานะน้อยกว่าเรา อาจเป็นเพราะงานสาขาที่เขาทำ ที่เขาชำนาญมีเพียงแค่นั้นก็ได้ คนที่ยากจนกว่าเรา เขาอาจมีความดี และความพยายามเหนือเรา แต่เพียงด้วยเขาทำงานทีหลัง หรือเขาไม่มีมรดกจากบรรพบุรุษเลยก็เป็นได้ คนที่ขี้เหน่กว่าเรา อาจมีคุณสมบัติอื่นๆ เหนือเราก็ได้ ในหลายๆ อย่าง ประการสุดท้ายคนที่มีตระกูลต่ำกว่าเรา เป็นเพียงพ่อแม่เขาไม่ได้เป็นเจ้านายมาก่อนเท่านั้น ที่สำคัญคัญกว่านั้น คือจิตใจเขาอาจสูงกว่าเราเป็นอย่างมาก ฉะนั้น ผู้ดีย่อมไม่ดูหมิ่นผู้อื่น แต่มีความเห็นใจพวกเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เพราะรู้ความจริงว่า ไม่มีใครเก่งกว่าใครในสายงานของตน ตามทางของตน รัฐมนตรีเก่งอย่างรัฐมนตรี จะเอาไปไถนา กวาดถนน คงทำไม่ได้ดีเท่าชาวนา และคนกวาดถนน ในทางตรงกันข้าม จะเอาคนกวาดถนน และชาวนาไปทำหน้าที่รัฐมนตรี เขาก็คงทำไม่ได้ดีเท่ารัฐมนตรีแน่นอน ดังนั้น ท่านทั้งหลายอย่าได้ดูถูกคนเลยนะ

วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ความภูมิใจของข้าพเจ้า

ท่านเอ๋ย…ในชีวิตนี้ของข้าพเจ้าไม่มีอะไรภูมิใจเท่าการได้เห็นคนอื่นยิ้มเพราะเราทำให้เขายิ้ม เพราะเขาดึงชีวิตกลับคืนมาได้ ชีวิตเป็นสิ่งที่หาได้ยากที่สุด มีอันเดียว เมื่อหลุดลอยไปแล้วเป็นอันหมดโอกาสที่จะเรียกคืนได้นะ…จะเห็นได้ว่า ความภูมิใจของข้าพเจ้าคือ การให้ ไม่ว่าจะเป็นการพูดคำไพเราะ ฟังเสนาะหู การมองดูด้วยสายสาตาอันมีเมตตา และการประพฤติปฏิบัติตามแนวทางของผู้ให้นั่นเอง…

วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2552

บทเรียนชีวิต

ชีวิตนั้นเป็นเรื่องที่รู้ยาก เข้าใจยากที่สุด ไม่มีวิทยาการใด ๆ ในโลกนี้ จะเรียนยาก เข้าใจยากเท่ากับวิทยาการอันเกี่ยวกับชีวิต เรื่องของชีวิตมีเรื่องแปลก ๆ ใหม่ ๆ มาให้ศึกษาอยู่เสมอ และมีกฎข้อยกเว้นบ่อยที่สุดและมากที่สุดด้วย เราอาจทุ่มเวลาศึกษาวิชาแขนงใด แขนงหนึ่งให้จบสิ้นในระยะเวลา ๒๐ ปี ๓๐ ปี เรียกได้ว่าพอรู้จริงในวิชานั้น แต่ชีวิตเป็นเรื่องที่เรียนไม่ได้ ทุกคนที่เกิดมาต้องจบชีวิตเสมอ ยิ่งเรียนชีวิตแบบวิทยาการทางโลกด้วยแล้ว จะไม่มีทางเข้าใจชีวิตได้ถูกต้องเลยนะ อย่างนั้นต้องเรียนแบบทางธรรมครับผม…

วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ทำให้ดู

อันความเมตตา กรุณานั่นไม่ต้องสอนกันมาก แต่ขอให้ทำเป็นตัวอย่างให้ดู ให้มาก แล้วคนทั้งหลายจะทำตามเองแหละ ในหมู่คณะที่ผู้ใหญ่เห็นแก่ตัว รับรองผู้น้อยก็พลอยตาม แม้จะสอนเรื่องเสียสละมากเพียงไร ข้าพเจ้ารับรองได้เลยว่า เกือบจะไร้ผลเสียเลยทีเดียวนะครับ…

วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2552

รักมีแต่ความทุกข์จริงหรือ

ถึงอย่างไร ข้าพเจ้าก็คิดว่า ความรักก็ต้องมีคุณอยู่ด้วยแหละ ข้าพเจ้ามองไม่เห็นเลยว่ามันจะมีโทษโดยส่วนเดียว ท่านทั้งหลาย…เคยกินปลาไหมหนอ ในปลานั้นมีก้างอยู่ ยิ่งปลาใหญ่ก้างก็ต้องใหญ่ขึ้นตามตัว ถ้าใครกินปลาแล้วก้างเข้าไปติดคอ กลับมาร้องโวยวายว่า ปลาไม่มีประโยชน์เลย กินแล้วเจ็บคอ จะกลืนน้ำลายก็ลำบาก คนนั้นข้าพเจ้าถามท่านที่อ่านหน่อยว่า “เป็นคนโง่หรือคนฉลาดนะครับ ?” บอกข้าพเจ้าทีนะ…. คนที่มองความรักมีแต่โทษก็คงไม่แตกต่างกันหรอกครับ…

วันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ก็คนมันชอบ

ในคุก ในตาราง ในไซนั้นมีอะไรดีกว่าการอยู่อย่างอิสระหนอ แต่ทำไมคนจึงชอบอยู่ในคุก ปลาจึงชอบอยู่ในไซ ในลอบ ในแห ข้าพเจ้าคิดว่ามันไม่มีอะไรเลย นอกเสียจากความพินาศ วอดวายของตัวคนคุก และตัวปลาเองเท่านั้น แต่แปลกนะ ในที่เหล่านั้นก็ยังมีคน มีปลาอยู่อย่างมากมาย โดยที่สุดแม้ในหลุมคูถ (ถังขี้) ก็ยังมีหนอนจำนวนมาก พากันแหวกว่ายในคูถกันอย่างสนุกสนานเพลิดเพลินเลยเน๊าะ แปลกจังนี่…คุณว่าเหมือนผมไหมนะ…

วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เมาเหล้าหรือจะเท่าเมารัก

คนที่ติดในรสของสุรา ชอบดื่มเป็นประจำ และดูเหมือนจะขาดสุราเสียมิได้ ถ้าขาดไปก็ดูเหมือนว่าจะขาดทุกสิ่งทุกอย่าง บุคคลเช่นนี้ย่อมจะพรรณาคุณของสุราได้เสมอ เมื่อมีใครมากล่าวโทษของสุราให้ฟัง รับรองเขาก็ต้องโต้เถียง คัดค้าน และโกรธเคืองผู้ตำหนินั้น ว่าเป็นผู้ไม่รู้จริง คุณที่รักเอย…เวลานี้ข้าพเจ้าก็เหมือนคนติดสุราคนนั้นแหละ และดูเหมือนว่าจะยิ่งกว่าคนติดสุราเสียอีกด้วย อันอาการเมาเหล้านั้น มันพอสร่างซาได้เป็นครั้งคราวนะ แต่คนที่เมารักอย่างฉันหาเวลาสร่างเมาไม่ได้เลยนะ แล้วอย่างนี้จะไม่สงสารฉันบ้าง เหรอ หรือจะทรมานให้ตายไปต่อหน้าต่อตาเลย จะไม่เป็นการโหดร้ายเหรอครับผม…

วันพุธที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2552

สันดานผู้ชาย

ถ้าจะอุปมาหญิงสาวเหมือนสวนดอกไม้นานาพันธ์ อันบานสะพรั่ง ชูช่อไสว ยั่วยวนใจบุรุษให้เข้าชม เมื่อเขาได้เข้าชมสมปรารถนาก็เพลิดเพลินอยู่ในสวนนั้นชั่วระยะหนึ่ง เพียงไม่ถึงครึ่งวันก็เบื่อและอยากออกมาเสียโดยเร็ว เพื่อพักผ่อน แล้วท่านก็อย่าพึงไว้ใจชายให้มากมายนักนะครับ ยิ่งเป็นวัยที่เรียนแล้วยิ่งลำบากนะครับผม

วันอังคารที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ไม่รู้จักหน้าที่

ค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน คนเราถ้ารู้จักหน้าที่เสียแล้ว ความไม่สมดุลทางธรรมชาติจะไม่เกิดขึ้น และถ้าหน้าที่ในเวลา งานที่ไม่ถูกต้องแล้ว อย่าหวังเลยว่าหน้าที่จะเป็นหน้าที่ได้ ที่สังคมเกิดการแตกแยก มีปัญหา ก็เพราะคนเราใช้หน้าที่ในทางที่ผิด จริงดังคำว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกีย์ โดยมากจะเป็นโดยแง่สอง คือ คุณและโทษ คอยสั่งสมอยู่ด้วยกันเสมอ แล้วแต่จะใช้ในด้านคุณหรือด้านโทษ" เท่านั้นแหละ…

วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ค่าของการสนทนา


ศีลพึงทราบได้ด้วยการอยู่ร่วมกัน ความสะอาดพึงทราบได้ด้วยการงาน ความกล้าหาญพึงทราบได้ในยามมีอันตราย และปัญญาพึงทราบได้ด้วยการสนทนา ทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลานาน ๆ และนอกจากนั้นยังต้องใช้ปัญญาคอยกำกับอยู่ด้วยเสมอจึงจะทราบได้…

วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เล็กมาก่อนโต โง่มาก่อนฉลาด

ฉันฝึกให้นายเข้มแข็งและอดทน คนเราจะต้องลำบากก่อนแล้วค่อยไปสบายเมื่อภายหลัง เมื่อนายผ่านจุดตรงนี้ได้ นายจะรู้ว่าความเหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างไร ความร้อน ความหนาว เป็นอย่างไร คนเราต้องเริ่มมาจากจุดเล็ก ๆ ก่อน ซึ่งเรียกว่า “ต้องฝึกเป็นขี้ข้าก่อน แล้วค่อยเป็นนายทีหลัง”…

วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เศร้าสุดในชีวิตฉัน

ถึงเวลาที่ฉันต้องจากมา ดูเธอมีอาการเศร้าโศก แต่ดูเหมือนเธอพยายามข่มความเศร้าโศกนั้นเสียด้วยความอดทน อวยพรให้ฉันเดินทางโดยปลอดภัย ส่วนเธอจะยอมอยู่ที่นี่ต่อไป ฉันเองมีความสะเทือนใจมากและสงสารเธอจนไม่อาจกลั้นน้ำตาได้ มันหลั่นไหลออกมาซึมอยู่เต็มเบ้าตาทั้งสอง เมื่อเห็นดังนั้น ความข่มใจและความอดทนของเธอก็ขึ้นถึงขีดสูงสุด เธอเอาผ้าเช็ดหน้าปิดหน้าแล้วสะอื้นฮักทันที “โอ้..ความสุขและความเศร้าอันสืบเนื่องมาจากความรัก แสดงฤทธิ์ของมันอย่างเต็มที่ในตอนนี้เอง”

วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2552

นี้หรือรัก

สิ่งพิเศษ คือ ความรัก ความหวังดี เป็นสิ่งมีค่าสูงควรแก่การทนุถนอม เป็นสิ่งนุ่มนวลและสูงส่งในระดับโลกีย์วิสัย มีความละเมียดละมัย เกือบพูดไม่ได้ด้วยภาษา แต่หากว่าทราบได้ด้วย “ความรู้สึก”

วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ความฝันของหญิงสาว

หญิงสาวก็จะใฝ่ฝันถึงชายหนุ่มรูปงาม กำยำ เป็นผู้นำ ท่าทางสง่า สามารถคุ้มกันเธอให้ปลอดภัยทั้งในชีวิตส่วนตัวและครอบครัวได้ เธอมีอุดมคติสูงในเรื่องการเลือกคู่ครอง พิถีพิถันอย่างมาก ถ้าได้ชายในอุดมคติตามที่เธอตั้งไว้แล้ว เธอพร้อมเสมอ ที่จะอดอยากและเผชิญชีวิตร่วม ทั้งพร้อมที่จะนอนตายเคียงข้างกับเขาตลอดไปอีกด้วย

วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ความฝันของชายหนุ่ม

ชายหนุ่มจะใฝ่ฝันถึงหญิงสาว สคราญโฉม นิ่มนวล อ่อนหวาน น่ารัก อ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอ ช่างเอาอกเอาใจ ท่าทางเป็นผู้ดี เขาคิดว่าเขาจะทนได้ทุกอย่างไม่ว่าจะอยู่ที่ใด จะเป็นพงหญ้า ป่าไม้ กระท่อมน้อย หรือแม้ในกลางดงดิบ ขอแต่เพียงให้มีเธออยู่เคียงข้าง เขาก็พร้อมจะเผชิญกับอุปสรรค ขวากหนามแห่งชีวิตทุกประการ

วันอังคารที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2552

การเลือกคบเพื่อน

นี่ลูกๆ ทั้งหลาย เวลาพวกเธอจะคบเพื่อน ควรจะดูสองอย่าง คือ ๑) ความรู้ และ ๒) ความประพฤติ การที่เขามีความรู้ดีนั้น เป็นเกียรติยศ ส่วนการที่เขามีความประพฤติดีนั้น เป็นความสบายใจ ไม่ต้องระแวงว่า เขาจะนำความเดือดร้อนมาให้เรา ถ้าจำเป็นต้องขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ขอให้ขาดความรู้เถิด อย่าให้บกพร่องในความประพฤติเลย เพราะความประพฤติเป็นส่วนสำคัญยิ่งนะ ท่านคิดว่าอย่างไร?

วันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2552

รอยจารึก

ข้าพเจ้าเชื่อเสมอว่า....รอยแห่งความดี ที่ใครคนหนึ่งทำไว้แก่เรา ชั่วชีวิตนี้และชีวิตหน้า ท่านจะไม่ลืมเลือนเลย เพราะมันเป็นรอยจารึกที่ลึก แต่เต็มไปด้วยความนุ่มนวล ให้ความชื่นบานหรรษาหาที่เปรียบมิได้ ใครได้ทำ ได้สร้างรอยใดเอาไว้ ท่านมั่นใจว่า เขาจะต้องกลับมาเหยียบรอยนั้นอย่างแน่นอน ไม่เร็วก็ช้า……

วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2552

รักแบบไหน

ความรักอันเจือด้วยความใคร่ ความรักระหว่างเพศ เป็นความรักอันเต็มไปด้วยอารมณ์ที่สะเทือนใจ ย่อมมีจุดมุ่งหมาย คือการแต่งงาน อันเป็นจุดสุดท้าย ส่วนความรักอันบริสุทธิ์ สะอาด ละเอียดอ่อน คือความรักที่เป็นความงามนั้น ย่อมมุ่งหมายความสุขของผู้ที่เรารักเป็นจุดหมายสำคัญ…โอ้…ความเหมือนในความต่าง ท่านว่าจริงไหม?..

วันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2552

โลกมันกลม

นกน้อยออกหากินไม่นานนักก็บินหวนคืนกลับสู่รัง มุมเบอร์แรงที่ขว้างไปในอากาศยังต้องหวนคืนกลับ ตะวันลาลับขอบฟ้าไม่นานก็จะกลับคืนมาสาดส่องแสง ไอน้ำ จากบ่อน้ำ คู คลอง ห้วย หนอง บึง แม้กระทั่งมหาสมุทร ไม่นานก็จะเกาะกลุ่มกันเป็นเมฆ แล้วหยาดหยดมาเป็นฝน ของที่เสียแล้วพอใช้ได้ยังมีการรีไซเคิล (Recycle) กลับมาใช้ได้ แล้วหัวใจดวงน้อย ๆ ของฉันที่จากเธอมา มีหรือที่จะไม่รัก ไม่คิดถึง ไม่หวนคืนกลับไปหาคนที่ฉันรัก ฉันเป็นห่วงคนเดิมละ…

วันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2552

สุดยอดความสุข

ความพอดีหนึ่ง การเข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆ ด้วยความระมัดระวังหนึ่ง ความพยายามในทางที่ชอบหนึ่ง และความพอใจในการกระทำของตน เพราะมิได้ทำผิดอีกหนึ่ง ทั้งสี่ประการนี้เป็นบ่อเกิดแห่งความสุขของมนุษย์เราทุกคน แม้แต่ฉันกับคุณก็เหมือนกันนะ

วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ของดีใครก็ชอบ

ธรรมดาคนดี ก่อความรู้สึกปราโมชแก่คนผู้อยู่ใกล้ชิดไม่มีวันจืดจาง นอกจากนี้ สิ่งที่เกี่ยวข้องด้วยคนดีก็พลอยเป็นสิ่งมีคุณค่าไปด้วย ดูสิ่งที่เกี่ยวข้องด้วยพระพุทธเจ้าเถิด แม้แต่พระบรมสารีริกธาตุ คนทั้งหลายก็บรรจุสถูป เจดีย์ไว้เป็นที่บูชา พระอังคาร คือเถ้าถ่านที่เหลือจากการถวายพระเพลิง คนทั้งหลายก็นำไปบูชา ทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นสิ่งควรเคารพ สักการะ บูชาไปทั้งสิ้น ความดีจึงเป็นสิ่งที่น่ารัก น่าทะนุถนอม น่ากระทำมาก เพราะมันเสกสรรคนทำให้เป็นคนดี คนศักดิ์สิทธิ์ คนที่โลกต้องยกย่อง เคารพ และสักการะอย่างไม่รู้จักจบสิ้น แล้วอย่างนี้เธอยังจะว่า ทำดีไม่ได้ดี มีให้ผลจะถูกต้องหรือ?

วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2552

คนจะทำดี

สำหรับข้าพเจ้าแล้ว การทำความดี จะปรารภอะไรก็ช่างเถิด ถ้าการกระทำนั้นเป็นความดี เป็นกุศลก็เป็นการใช้ได้ ดีกว่าไม่ทำเสียเลย บางคนชอบตำหนิคนอื่นว่า คนนั้น คนนี้ ทำความดีเอาหน้า แต่สำหรับข้าพเจ้าแล้ว มีความเห็นว่า แม้การกระทำความดีเอาหน้านั้นเอง ก็ยังดีกว่าไม่ทำ และดีกว่าการทำความชั่วมากทีเดียว ยิ่งถ้าได้ทำความดีเพื่อความดีแล้ว จะประเสริฐเพียงใด คิดดูซิ

วันอังคารที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2552

คนดีที่หนึ่งเลย


ถ้าน้องรักความดี ระลึกถึงความดี ให้เหมือนกับน้องรักกับพี่ คิดถึงพี่ ระลึกถึงพี่ แน่นอนน้องจะเป็นคนดีที่สุดในโลกคนหนึ่งเลยนะจ๊ะ

วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2552

รักที่ไม่เคยหมด

ถ้าเมื่อใดก็ตามที่คุณรู้สึกเบื่อหน่ายครอบครัว พ่อแม่ รู้สึกจะลดความรักลง ให้ได้ เธอจงพยายามไปเยี่ยมเยือนบ้านญาติพี่น้องที่กำลังมีลูกอ่อน เธอจะได้เห็นชีวิตจริงๆ ที่เหมือนๆ กัน เด็กเริ่มต้นชีวิตมาอย่างไร ต้องมอบชีวิตตนให้อยู่ในความรับผิดชอบของพ่อแม่มาอย่างไร พ่อแม่ต้องตรากตรำลำบากเพียงใดในการดูแล ถนอมชีวิตลูกจนเติลโตมาได้ ลูกที่อกตัญญูต่อพ่อแม่จึงมีโทษมากกว่า

วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2552

คุณสมบัติดอกไม้

ดอกไม้นั้น มีกลิ่นหอมอยู่โดยธรรมชาติแล้ว เมื่อมีสิ่งพิเศษแทรก ซึ่งได้แก่ใจ เจตนาดี ความรัก ความเป็นห่วง ความคิดถึง อันบริสุทธิ์จากผู้ให้แทรกเข้ามาในเกสร ในกลีบอีกแล้ว ความหอมย่อมเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ และจะทำให้ผู้ได้รับเกิดความหอม มีคุณค่าสำหรับเขามากขนาดไหนละ? คุณที่รักจ๋า….

วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2552

สุขของสตรีที่แต่งงานแล้ว

สตรีที่แต่งงานแล้ว ย่อมต้องการความรักจากสามี สตรีที่สามีรักนั้น ชื่อว่ามีเทวดาคุ้มครองทุกย่างก้าว มีความสุขและชื่นชูใจ เธอจะต้องรักภรรยาของเธอ โดยมิต้องลดความรักที่มีต่อกัน ความรักไม่เหมือนสิ่งของ เครื่องใช้ที่จะแจกจ่ายกันหมดได้นะ ให้ความรักไม่เคยผิดนะครับผม